19 พฤษภาคม 2563 ชลประทานพร้อมรับมือฤดูฝนปี ๖๓ เดินหน้ากำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ

ที่มา: https://www.innnews.co.th/social/news_678002/

ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน และนายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านวิศวกรรมชลประทาน (ด้านบำรุงรักษา) เข้าร่วมประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมฯ ในการนี้ ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมผ่านระบบ VDO Conference จากทำเนียบรัฐบาลมายังศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ(SWOC) กรมชลประทาน สามเสน อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศจำนวน ๔๔๗ แห่ง มีปริมาณน้ำในอ่างฯ รวมกันทั้งสิ้น ๓๔,๑๐๐ ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ ๔๕ ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ ๑๐,๔๓๖ ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ ๔ เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยฯ และเขื่อนป่าสักฯ) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ ๘,๒๗๖ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ ๓๓ ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำใช้การได้ ๑,๕๘๐ ล้าน ลบ.ม. มีการจัดสรรน้ำทั้งประเทศไปแล้ว ๑,๔๘๑ ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ ๑๒ ของแผนจัดสรรน้ำฤดูฝน เฉพาะลุ่มเจ้าพระยา มีการจัดสรรน้ำไปแล้ว ๔๘๕ ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ ๑๕ ของแผนฯ ด้านผลการเพาะปลูกข้าวนาปี ๒๕๖๓ ปัจจุบันทั้งประเทศเพาะปลูกแล้วรวมทั้งสิ้น ๐.๖๕ ล้านไร่ จากแผนที่กำหนดไว้ ๑๖.๗๙ ล้านไร่ เฉพาะพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา เพาะปลูกแล้ว ๐.๔๓ ล้านไร่ จากแผนที่กำหนดไว้ ๘.๑๐ ล้านไร่ ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำต้นทุนที่มีอยู่ค่อนข้างจำกัด สำรองไว้ใช้ได้เฉพาะอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศเท่านั้น ส่วนการทำนาปีขอให้เกษตรกรทำการเพาะปลูกโดยใช้น้ำฝนเป็นหลัก และถึงแม้ว่าขณะนี้กรมอุตุนิยมวิทยาจะประกาศเข้าสู่ฤดูฝนแล้วก็ตาม ขอให้เกษตรกรทำการเพาะปลูกเมื่อเห็นว่า มีปริมาณฝนตกชุกหรือมีปริมาณน้ำเพียงพอในพื้นที่ การบริหารจัดการน้ำและการเตรียมการรับมือฤดูฝนปี ๖๓ นั้น ได้สั่งการให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ ตรวจสอบอาคารชลประทานทุกแห่ง ให้สามารถใช้งานได้เต็มศักยภาพ รวมทั้งสำรวจสิ่งกีดขวางทาง และการกำจัดวัชพืชในแม่น้ำสายหลัก คู คลองต่างๆ การติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำต่างๆ เป็นไปตามเกณฑ์การเก็บกักที่วางไว้ ที่สำคัญได้เน้นย้ำให้มีการแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับสถานการณ์น้ำในพื้นที่ให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม หรือน้ำล้นตลิ่ง อีกทั้งยังได้จัดเตรียมเครื่องจักร และเครื่องมือต่างๆ ประจำไว้ในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ว หากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ชลประทานบริการประชาชน

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ เราจะถือว่าคุณรับได้กับเรื่องนี้ แต่คุณสามารถเลือกไม่รับได้หากต้องการ ยอมรับ อ่านเพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy