สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

19 กันยายน 2563 ยูเอ็น เตือนโลกร้อนยังไม่ชะลอตัว ‘โควิด-19’ ไม่ช่วยลดก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศแต่อย่างใด

ที่มา : https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9630000095872

รายงานขององค์การสหประชาติ หรือ UN สะท้อนวิกฤตโควิดไม่ทำให้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศช้าลง แม้ว่าผลจากการแพร่ระบาดในปีนี้ ทำให้ปริมาณก๊าซเรือนกระจกรอบปีลดลงถึง 7% ทว่าการชะลอตัวของผลกระทบที่มีต่อชั้นบรรยากาศนั้น มีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ผลการวิเคราะห์การปล่อยสารจากการเผาไหม้ฟอซซิลลดลงต่ำสุดในเดือนเมษายน 2020 ต่อมาในเดือนมิถุนายน 2020 ซึ่งเป็นช่วงที่เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว การปล่อยก๊าซกลับมาพุ่งสูงเทียบเท่ากับเมื่อปีก่อน

Dr.Pep Canadell จาก CSIRO สถาบันทางสภาพอากาศในออสเตรเลียกล่าวว่า ในช่วงสิ้นปี 2020 ผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อ covid-19 จะลดการปล่อยก๊าซได้มากเป็น 2 เท่าของวิกฤตเศรษฐกิจปี 2007 “สำหรับปีนี้ ความเข้มข้นพื้นฐานของก๊าซ co2 ยังไม่เปลี่ยนแปลง นั่นเป็นเพราะ พวกเราปล่อยก๊าซถึง 42 ล้านตันในปีก่อน ดังนั้นแม้เราจะลดการปล่อยก๊าซไปถึง3% ของค่าเฉลี่ย มันก็ไม่ช่วยอะไรเลย”

จากการวิเคราะห์การปล่อยก๊าซในเดือนมิถุนายน ในรายงานของ The United in Science ระบุว่า ปี 2020 ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยจะน้อยกว่าปี 2019 ถึง 4-7% แต่ถึงอย่างนั้น ปริมาณก็ยังเทียบเท่ากับปี 2006 หรือ 14 ปีก่อน

ในช่วงเดือนเมษายน การปล่อยก๊าซประจำวันลดลงถึง 17% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่หลังจากนั้นกลับมาเข้าสู่ภาวะปกติที่มีการปล่อยก๊าซซึ่งก็กลับมาเท่าเดิม การปล่อยก๊าซที่ลดลงในปีนี้ เทียบเท่ากับประมาณ 0.23 ppm ซึ่งพอๆ กับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้จากปัจจัยทางธรรมชาติอื่นๆ

Prof.Petteri Taalas เลขาธิการองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) กล่าวว่า “การสะสมก๊าซเรือนกระจกได้เกิดขึ้นมา 3 ล้านปี และมันก็ยังสะสมมสกขึ้นเรื่อยๆ ในปี 2016-2020 ซึ่งเป็นช่วง 5 ปีที่โลกมีอากาศร้อนที่สุดเท่าที่มีการจดบันทึก นั่นเป็นการบอกว่า แม้ชีวิตพวกเราจะเปลี่ยนแปลงหลายอย่างแต่สภาพอากาศก็ยังร้อนขึ้นเรื่อยๆ นอกเสียจากเศรษฐกิจจะพักตัวนาน และรัฐบาลทั่วโลกหันมาเห็นความสำคัญของภาวะโลกร้อน เท่าๆกับที่เห็นความสำคัญของเศรษฐกิจ”

ผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหนัก 3 ครั้งในช่วง 4 ปี เกิดขึ้นจากไฟป่า และมีโอกาสถึง 1 ใน 4 ที่ในช่วง 2020-2024อุณหภูมิโลกจะสูงขึ้น 1.5 องศาเมื่อเทียบกับช่วงก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม

ผลการศึกษาระบุว่าภายในปี 2030 โลกจะต้องลดการปล่อยก๊าซรวมของประเทศผู้ผลิตคาร์บอน 6 อันดับแรกเพื่อให้มีโอกาสอยู่ต่ำกว่า 1.5 C ได้อย่างสมเหตุสมผล แม้ว่าดูจะเป็นไปไม่ได้ แต่รายงานระบุว่าโดยพื้นฐานแล้วจะต้องมีการชะลอตัวของคาร์บอนเสมือนว่าเกิดการระบาดของโควิดทุกปีนับจากนี้ไปจนถึงสิ้นทศวรรษ

หลักฐานที่แสดงถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากระดับน้ำทะเลทั่วโลกเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่เคยบันทึกไว้ ระหว่างปี 2016 ถึง 2020 อัตราการเพิ่มขึ้นคือ 4.8 มม.ต่อปี เพิ่มขึ้นจาก 4.1 มม. ที่บันทึกไว้ระหว่างปี 2011 ถึง 2015

ปริมาณน้ำแข็งในทะเลในอาร์กติกลดลงอย่างต่อเนื่องในอัตรา 13% ต่อทศวรรษ อุณหภูมิที่สูงขึ้นยังทำให้เกิดภัยแล้งและคลื่นความร้อน และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ เราจะถือว่าคุณรับได้กับเรื่องนี้ แต่คุณสามารถเลือกไม่รับได้หากต้องการ ยอมรับ อ่านเพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy
slot online situs slot gacor hari ini daftar istanaslot https://buletin303.com/ https://134.209.107.98:777/ https://188.166.233.138/

https://gangster4d.netlify.app/

gangster4d slot

gangster4d

https://cutt.ly/meozcUaw https://cutt.ly/Ieozc9W8 https://cutt.ly/Teozc688 https://cutt.ly/GeozvyZf https://cutt.ly/FeozvpGX