17 สิงหาคม 2564 พระพุทธรูปโบราณลี้ภัยสงครามในอัฟกานิสถานสู่พิพิธภัณฑ์กรุงคาบูล

ที่มา: https://www.silpa-mag.com/history/article_7444
ประเทศอัฟกานิสถานเตรียมจัดแสดงพระพุทธรูปโบราณที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ และยังสามารถมองเห็นสีสันได้อย่างชัดเจน ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ในกรุงคาบูล หลังถูกนำออกมาจากพื้นที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ และผ่านการบูรณะเรียบร้อยแล้ว พระพุทธรูปองค์นี้ถูกฝังอยู่ใต้ชั้นดินตั้งแต่ราวศตวรรษที่ 3-5 ทั้งนี้จากข้อมูลของนักโบราณคดี ก่อนถูกค้นพบเมื่อปี ค.ศ. 2012 ในเขต Mes Aynak ของจังหวัด Logar ห่างจากกรุงคาบูลไปทางตะวันออกเฉียงใต้เป็นระยะทาง 40 กม. ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญของกลุ่มตาลีบัน กองกำลังติดอาวุธหัวรุนแรงที่เคยทำลายพระพุทธรูปยืนแห่งบามิยันมาก่อน การค้นพบครั้งนี้เกิดขึ้นได้หลังกลุ่มทุนจีนเข้าไปลงทุนทำเหมืองทองแดงขนาดใหญ่ในพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้พบกับกลุ่มวิหารโบราณบนพื้นที่กว้างขวางกว่า 4 ตารางกิโลเมตร “รูปปั้นนี้อยู่ในสภาพที่เกือบสมบูรณ์ตอนที่ถูกค้นพบ โดยยังมีพระเศียรอยู่ครบ ซึ่งถือว่าพบได้ยากมาก” เอร์มาโร คาร์โบนารา (Ermano Carbonara) ช่างบูรณะวัตถุโบราณชาวอิตาเลียนกล่าว “ถูกตั้งอยู่ตรงกลางซุ้มซึ่งประดับประดาด้วยภาพเขียนดอกไม้ต่าง ๆ ณ พื้นที่ศูนย์กลางขนาดใหญ่ (ที่เคยใช้) สำหรับการสวดภาวนา” ช่างอิตาเลียนกล่าว ก่อนเสริมว่า “การย้ายออกมาจุดเดิมเป็นสิ่งที่ดีกว่า เพื่อการอนุรักษ์” เนื่องจากพระพุทธรูปองค์นี้ทำจากดินเหนียว ความชื้นจากฝนอาจทำให้เกิดความเสียหายได้ คาร์โบนารายังชื่นชมว่า รายละเอียดของพระพักตร์ พระเกศาที่ม้วนเป็นพระเมาลี พระปรางค์สีชมพู และดวงพระเนตรสีน้ำเงิน ถือเป็นงานที่แสดงถึงเทคนิคอันลึกล้ำของช่างฝีมือในยุคโบราณของถิ่นกำเนิดพระพุทธรูปแห่งนี้ และด้วยเหตุที่พระพุทธรูปโบราณโดยเฉพาะส่วนพระเศียรเป็นวัตถุโบราณที่เป็นที่ต้องการสูงในตลาดมืด พระพุทธรูปจำนวนมากในประเทศอัฟกานิสถานจึงอยู่ในสภาพไร้พระเศียร การทิ้งพระพุทธรูปโบราณในสภาพสมบูรณ์เช่นนี้ไว้ในพื้นที่สาธารณะซึ่งเข้าถึงได้ง่ายจึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก