11 มีนาคม 2563 ฟอสซิลนกเชื่อมโยงแอฟริกา เอเชีย และรัฐยูทาห์

ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/foreign/1791788
การค้นพบซากดึกดำบรรพ์ หรือฟอสซิลชิ้นเล็กชิ้นน้อยไม่สมบูรณ์นั้น บางครั้งก็อาจให้เบาะแสใหม่ๆ เช่น ฟอสซิลของสัตว์ที่ได้แห่งหนึ่งอาจช่วยนักบรรพชีวินวิทยาเชื่อมโยงถึงกลุ่มสัตว์ในทวีปอื่นๆ
ล่าสุด ดร.โธมัส สติดแฮม จากสถาบันบรรพชีวินวิทยาซากดึกดำบรรพ์และบรรพชีวินวิทยาของสภาวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน เผยว่า ซากฟอสซิลนกที่พบในยุโรป เอเชีย แอฟริกา และอเมริกาเหนือ แสดงให้เห็นว่ากลุ่มนกมีการกระจัดกระจายแพร่ หลายในช่วงแรกของวิวัฒนาการ พวกมันเดินทางข้ามมหาสมุทรเพื่อขยายเผ่าพันธุ์อย่างกว้างขวาง
ดร.โธมัส สติดแฮม และทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยมิดเวสเทิร์น ในรัฐอริโซนา และพิพิธภัณฑ์ซากดึกดำบรรพ์แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา เผยว่าจากการศึกษาฟอสซิลนกพบในหินอายุ 44 ล้านปี ที่พบในทางตะวันออกของรัฐยูทาห์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่า นกโบราณตัวนี้เป็นสายพันธุ์ใหม่ของนกขนาดเล็กในกลุ่ม Paraortygidae ซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้ว เชื่อว่าซากฟอสซิลนกนี้จะเติมเต็มในช่องว่างในข้อมูลเกี่ยวกับชั้นสัตว์ปีกในอันดับไก่ (Galliformes) โดยเฉพาะเกี่ยวพันกับนกขนาดเล็กจำพวกนกกระทา ฟอสซิลนกตัวนี้มีแง่มุมที่น่าสนใจก็คือ ลักษณะคล้ายกับฟอสซิลขนาดเล็กที่มีรูปร่างอันเป็นเอกลักษณ์ของซากฟอสซิล Paraortygidae ก่อนหน้านี้ที่พบในชั้นตะกอนจากที่อื่นๆ แต่มีอายุทางธรณีวิทยาใกล้เคียงกัน อย่างที่พบในประเทศนามิเบีย ตั้งอยู่ตอนใต้ของแอฟริกา และประเทศอุซเบกิสถานในแถบเอเชียกลาง นักบรรพชีวินวิทยาเผยว่าความเชื่อมโยงเหล่านี้จะช่วยให้เข้าใจชุมชนสัตว์และระบบนิเวศในยุคดึกดำบรรพ์ได้เพิ่มขึ้น