11 กุมภาพันธ์ 2567 เปิดตัวแล้ว! เว็บไซต์ Food Waste Hub เผยแพร่นวัตกรรมฝีมือคนไทยพลิกวิกฤต “ขยะอาหาร” เป็น “ไอเดียธุรกิจพร้อมเสิรฟ์”
ที่มา : Thaipr.net (https://www.thaipr.net/business/3440836)
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้เปิดตัวเว็บไซต์ www.FoodWasteHub.com โดยการสนับสนุนของกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) เพื่อเผยแพร่ผลงานนวัตกรรมฝีมือคนไทยในการนำขยะอาหารไปใช้ประโยชน์ ตอบโจทย์เอสเอ็มอี และ สตาร์ทอัพ ที่มองหาแนวทางการนำงานวิจัยไปใช้ได้จริงในเชิงพาณิชย์ ตั้งเป้าลดขยะอาหาร และแยกขยะอินทรีย์ออกจากขยะรีไซเคิล ช่วยลดปริมาณขยะ เพิ่มอัตราการรีไซเคิล หนุนนโยบาย BCG..ของประเทศ ปัญหาขยะอาหารกลายเป็นประเด็นสำคัญที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ โดย 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตได้ทั่วโลกถูกทิ้งเกิดการเน่าเสีย สร้างผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพสิ่งแวดล้อม และทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกซึ่งเชื่อมโยงไปสู่ภาวะโลกร้อน ซึ่งประเทศไทยมีขยะอาหารคิดเป็น 64% ของปริมาณทั้งหมด และยังมีการนำขยะอาหารไปใช้ประโยชน์น้อยมาก เนื่องจากไม่มีการคัดแยกที่ถูกต้องก่อนทิ้ง ทำให้ขยะอาหารปนเปื้อนกับขยะประเภทอื่น ส่งผลให้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ เช่นพลาสติก ไม่ได้ถูกนำกลับไปใช้ประโยชน์ตามไปด้วย
วช. และ Dow..เห็นถึงความสำคัญของการจัดการขยะของประเทศ จึงได้ร่วมมือกันส่งเสริมการคัดแยกขยะด้วยนวัตกรรม โดยหนึ่งในความร่วมมือล่าสุดคือ การสร้างเว็บไซต์ www.FoodWasteHub.com เพื่อสนับสนุนการจัดการขยะอาหารอย่างมีส่วนร่วมตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะอาหาร จากการนำเศษอาหารมาใช้ประโยชน์ก่อนเน่าเสีย ช่วยลดการปนเปื้อนต่อขยะที่สามารถรีไซเคิลได้ ทำให้ขยะในประเทศลดลงและเพิ่มอัตราการรีไซเคิลไปพร้อม ๆ กัน การพัฒนาเว็บไซต์ดังกล่าว ไม่เพียงเป็นการนำเสนอแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ข้อมูลนวัตกรรมจากการวิจัยที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก วช. หรือต้นแบบโครงการ เพื่อให้คนไทยได้รับความรู้เกี่ยวกับการนำขยะอาหารไปใช้ประโยชน์ แต่ยังเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่สนใจประกอบธุรกิจและนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ในงานแถลงข่าวเปิดตัวเว็บไซต์ www.FoodWasteHub.com..ณ ห้องประชุมชั้น 2 ตึกทรู ดิจิทัล พาร์ค เวสต์ ยังได้มีการจัดแสดงนวัตกรรมการจัดการขยะอาหารให้กับสื่อมวลชน เอสเอ็มอี สตาร์ทอัพ และผู้ที่สนใจเข้าร่วมชม เพื่อให้เห็นตัวอย่างงานวิจัยส่วนหนึ่งที่มีเผยแพร่ในเว็บไซต์ นอกจากนี้ นักวิจัยทุกคนที่เข้าร่วมโครงการฯ ยังได้รับใบประกาศเกียรติคุณสำหรับการอนุญาตให้เผยแพร่ผลงานเพื่อเป็นประโยชน์ต่อสาธารณะอีกด้วย