1 มกราคม 2563 ปลุกหัวใจอนุรักษ์ ลด “ขยะ”
ที่มา : https://news.thaipbs.or.th/content/287540
วันนี้ (1 ม.ค.2563) เป็นวันแรกที่คนไทยต้องปรับตัวครั้งใหญ่ก็ว่าได้ หลังห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ งดแจกถุงพลาสติกตามนโยบายของภาครัฐที่ต้องการเลิกใช้ถุงพลาสติก
45,000 ล้านใบต่อปี คือ ปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้วในไทย 40 % จากตลาดสด เทศบาล เอกชน และแผงลอย คิดเป็นจำนวน 18,000 ล้านใบต่อปี 30 % มาจากร้านขายของชํา จำนวน 13,500 ล้านใบต่อปี และอีก 30% มาจากห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ จำนวน 13,500 ล้านใบต่อปี เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ มีการใช้ถุงพลาสติกเฉลี่ย คนละ 8 ใบต่อวัน ทำให้มีขยะพลาสติกมากถึง 80 ล้านใบต่อวัน
“ขยะมูลฝอย” แยกเป็น ขยะย่อยสลาย ขยะรีไซเคิล ขยะอันตราย ขยะทั่วไป ใน 4 ประเภทนี้ รวมกันแล้ว ปี 2561 มีปริมาณขยะมูลฝอยประมาณ 27.82 ล้านตัน เป็นพลาสติกในขยะชุมชนกว่า 2 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.64 เมื่อเทียบกับปี 2560 ที่มีปริมาณ 27.37 ล้านตัน
เฉลี่ยคนหนึ่งคนสร้างขยะมากถึงวันละ 1.15 กิโลกรัม สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ขยะเพิ่มนั้นเนื่องจากจำนวนคนที่เพิ่มมากขึ้น ชุมชนเมืองขยายตัว การท่องเที่ยว และการบริโภคที่มากขึ้น
โดยในแต่ละปี มีปริมาณขยะตกค้างสะสมจำนวนมาก นั้นมาจากการลักลอบทิ้งในที่สาธารณะ ตามแม่น้ำคลอง บางส่วนไหลลงทะเล สร้างผลกระทบต่อเนื่องต่อสิ่งแวดล้อม
ปี 2561 มีขยะที่กำจัดไม่ถูกต้องถึง 7.36 ล้านตัน และหากยังไม่กำจัดขยะตกค้างสะสมให้หมดได้ 100% อย่างที่หน่วยงานรัฐตั้งเป้าไว้ ในอีก 5 ปีข้างหน้า จะมีปริมาณขยะตกค้างประมาณ 8.86 ล้านตัน
ขยะพลาสติกที่เริ่มสร้างปัญหาต่อสิ่งแวดล้อม หรือ แม้แต่มนุษย์เอง จึงเป็นที่มาของโรดแมป 12 ปี การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561-2573 เริ่มในปี 2561 ประเดิมปรับลดการใช้พลาสติก คือ แคปซีล (Cap Seal) พลาสติกหุ้มขวดน้ำดื่ม ผลิตภัณฑ์พลาสติกที่มีส่วนผสมของสารประเภท อ๊อกโซ่ (Oxo) และพลาสติกผสมสาร ไมโครบีท (Microbead) ตั้งเป้าภายในปี 2565 จะเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ไม่ว่าจะเป็น ถุงพลาสติกหูหิ้ว กล่องโฟมบรรจุอาหาร แก้วพลาสติก และหลอดพลาสติก โดยหันมาใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ ร้อยละ 100 ภายในปี 2570
ผลที่คาดว่า จะได้รับจากโรดแมปนี้ คือ จะลดปริมาณขยะพลาสติกได้ประมาณ 0.78 ล้านตันต่อปี และจะประหยัดงบประมาณในการกำจัดขยะมูลฝอยได้ประมาณ 3,900 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 1.2 ล้านตันหรือเทียบเท่า
ในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา ได้มีการรณรงค์จัดกิจกรรมมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เริ่มจากแคมเปญ “ทำความดีด้วยหัวใจ ลดภัยสิ่งแวดล้อม” ที่กระทรวงทรัพยากรฯ จับมือกับกับภาคธุรกิจ เอกชน ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ และตลาดสดทั่วประเทศ การลด ละ เลิก ใช้พลาสติกเกินความจำเป็น ตั้งแต่ 21 ก.ค.2561 – 31 ส.ค.2562 สามารถลดปริมาณการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว ได้กว่า 2,000 ล้านใบ หรือประมาณ 5,755 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท และสามารถรวบรวมถุงผ้าบริจาคให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ แล้ว กว่า 8,000 ใบ
และเริ่มการรณรงค์ที่เข้มข้นขึ้น ในการงดให้บริการถุงพลาสติกหูหิ้ว ในวันสิ่งแวดล้อมไทย และวันที่ 4 ของทุกเดือน จนมาถึงการทำแคมเปญ Everyday Say No to Plastic Bags ซึ่งเริ่มขึ้นใน 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้มีห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง และร้านสะดวกซื้อ เข้าร่วมแล้วอย่างน้อย 80 แห่ง ตั้งเป้าหมายต่อไป 1 ม.ค. 2564 จะสามารถคลอดกฎหมายงดใช้พลาสติกในประเทศให้ได้