ONEP Learning #6

ตามรอยไทยในบัญชีโลก: รู้จักแหล่งมรดกโลกทั้ง 8 แหล่ง และ 7 พื้นที่เตรียมการ
ในทุกตารางนิ้วของแผ่นดินไทย มีร่องรอยหลักฐานของอารยธรรมเก่าแก่ที่บอกเล่าความรุ่งเรืองของมนุษย์ และความงดงามตามธรรมชาติที่มีคุณค่าเเละความสำคัญระดับโลก ซ่อนตัวอยู่ ซึ่งบางส่วนเปรียบได้กับเพชรเม็ดงามที่ได้รับการบ่งชี้ถึงคุณค่าความสำคัญในระดับโลก จนได้รับการยกย่องให้เป็น “แหล่งมรดกโลก”—ที่เป็นสมบัติล้ำค่าที่สะท้อนถึงความคิด ความเชื่อ และความงดงามตามธรรมชาติที่โดดเด่นเจิดจรัส
แหล่งมรดกโลกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม ทางธรรมชาติ และแบบผสม
🏺 1 — แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม: มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้
แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม หมายถึง อาคาร กลุ่มอาคาร หรือสถานที่ ที่มีผลงานทางสถาปัตยกรรม ประติมากรรม และจิตรกรรมที่โดดเด่นในระดับสากล หรือ องค์ประกอบหรือโครงสร้างทางโบราณคดี จารึก ที่อยู่อาศัยในถ้ำ และองค์ประกอบที่ ผสมผสานกัน ที่มีคุณค่าโดดเด่นในระดับสากลทางด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ หรือ วิทยาศาสตร์ รวมถึงแหล่งที่มีผลงานของมนุษย์หรือผลงานผสมผสานระหว่างธรรมชาติ และมนุษย์ และแหล่งโบราณคดี ซึ่งมีคุณค่าโดดเด่นเป็นสากลในแง่ประวัติศาสตร์ สุนทรียศาสตร์ ชาติพันธุ์วิทยา หรือมานุษยวิทยา
ประเทศไทยในวันนี้มี แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมจำนวน 5 แหล่ง ได้แก่
(1) เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร (พ.ศ. 2538) — รากฐานของอาณาจักรไทยยุคต้น ประกอบด้วยอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ศรีสัชนาลัย และกำแพงเพชร ที่ยังคงกลิ่นอายของความรุ่งเรืองในอดีตกาล
(2) นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา (พ.ศ. 2538) — เมืองหลวงเก่าที่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าและวัฒนธรรมของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
(3) แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง (พ.ศ. 2535) จังหวัดอุดรธานี — ประจักษ์พยานของอารยธรรมเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเผยให้เห็นร่องรอยของมนุษย์ยุคก่อนประวัติศาสตร์
(4) เมืองโบราณศรีเทพและโบราณสถานสมัยทวารวดีที่เกี่ยวข้อง (พ.ศ. 2566) จังหวัดเพชรบูรณ์ — ดินแดนแห่งอารยธรรมทวารวดีที่ผสมผสานศิลปะ ความเชื่อ และสถาปัตยกรรมไว้อย่างงดงาม
(5) ภูพระบาท: ประจักษ์พยานแห่งวัฒนธรรมสีมาสมัยทวารวดี (พ.ศ. 2567) จังหวัดอุดรธานี — พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สะท้อนความเชื่อ ความศรัทธา และความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ
🌿2 — แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ: มรดกที่ธรรมชาติเป็นผู้รังสรรค์
หากวัฒนธรรมคือผลงานที่รังสรรค์โดยมนุษย์ “ธรรมชาติ” ก็คือศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ที่สร้างความงามอย่างน่าอัศจรรย์
แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ หมายถึง พื้นที่ทางธรรมชาติที่มีคุณค่าระดับ สากลอันที่มีความโดดเด่นทางสุนทรียศาสตร์ หรือทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงการอนุรักษ์ ที่มีความงามตามธรรมชาติและมีลักษณะทางธรณีวิทยาและภูมิศาสตร์ที่โดดเด่น และ อาจเป็นพื้นที่ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์และพืชที่ถูกคุกคาม มีคุณค่าในการอนุรักษ์ ความงดงาม และความสำคัญต่อระบบนิเวศอย่างชัดเจน
ประเทศไทยมี แหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ 3 แหล่ง ได้แก่
(1) เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร – ห้วยขาแข้ง (พ.ศ. 2534) ประกอบด้วย เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันออก – ทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก – ห้วยขาแข้ง (จังหวัดอุทัยธานี และจังหวัดกาญจนบุรี)
(2) พื้นที่กลุ่มป่าดงพญาเย็น – เขาใหญ่ (พ.ศ. 2548) ประกอบด้วย อุทยาน แห่งชาติเขาใหญ่ – ทับลาน – ปางสีดา – ตาพระยา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ (จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดสระแก้ว และจังหวัด สระบุรี)
(3) พื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน (พ.ศ. 2564) ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติแก่ง กระจาน – กุยบุรี – เฉลิมพระเกียรติไทยประจัน และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี (จังหวัดราชบุรี จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์)
🌺 3 — แหล่งมรดกโลกแบบผสม: เมื่อธรรมชาติและวัฒนธรรมมาอยู่ร่วมกันอย่างพึ่งพิง
แหล่งมรดกโลกแบบผสม เป็นแหล่งที่มีการผสมผสานระหว่างมรดกทางวัฒนธรรมและทางธรรมชาติในพื้นที่เดียวกันอย่างลงตัว
ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีการขึ้นทะเบียนแหล่งมรดกโลกประเภทนี้ แต่อยู่ระหว่าง การขอรับงบประมาณสนับสนุนในการศึกษาความเป็นไปได้ในการนำเสนอ เนื่องจาก สผ. และนักวิชาการหลายท่านพิจารณาแล้วเห็นว่าประเทศไทยมีพื้นที่ที่มีคุณค่าเพียงพอที่สามารถ ผลักดันให้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกได้
🌠 7 แหล่ง เตรียมการยกระดับ
นอกจากแหล่งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว ประเทศไทยยังมีแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติที่อยู่ใน “บัญชีรายชื่อเบื้องต้น” (Tentative List) ของศูนย์มรดกโลก เพื่อเตรียมการเสนอขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกจำนวน 7 แหล่ง ได้แก่
(1) วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดพระบรมธาตุ) จังหวัดนครศรีธรรมราช (2555)
(2) อนุสรณ์สถาน แหล่งต่าง ๆ และภูมิทัศน์วัฒนธรรมของเชียงใหม่
นคร หลวงของล้านนา (2558) (จังหวัดเชียงใหม่)
(3) พระธาตุพนม กลุ่มสิ่งก่อสร้างทางประวัติศาสตร์ และภูมิทัศน์ที่เกี่ยวข้อง (2560) (จังหวัดนครพนม)
(4) กลุ่มเทวสถานปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ และปราสาทปลายบัด (2562) (จังหวัดบุรีรัมย์)
(5) พื้นที่แหล่งอนุรักษ์ทะเลอันดามัน (2566) (จังหวัดระนอง จังหวัดพังงา และจังหวัดภูเก็ต)
(6) สงขลาและชุมชนที่เกี่ยวเนื่องริมทะเลสาบสงขลา (2567) (จังหวัดสงขลา) ประกอบด้วย 4 พื้นที่ (1) เมืองโบราณพังยาง เมืองโบราณพะโคะ และเมืองโบราณสีหยัง (2) เมืองโบราณสทิงพระ (3) เมืองป้อมค่ายซิงกอร่า ณ เขาแดง และแหลมสน และ (4) เมืองเก่าสงขลา บ่อยาง
(7) พระปรางค์ วัดอรุณราชวราราม อัตลักษณ์ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (2568) สำหรับแหล่งที่จะมีการพิจารณาการนำเสนอขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลก
สำหรับปี พ.ศ. 2569 คณะกรรมการมรดกโลกจะพิจารณานำเสนอ แหล่งมรดกทางวัฒนธรรม วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นแหล่งมรดกโลก ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการประเมินขององค์กรที่ปรึกษา
🔖 สรุป: มรดกโลกคือมรดกเพื่อการส่งผ่าน
ในปัจจุบัน ประเทศไทยมี แหล่งมรดกโลกขึ้นทะเบียนแล้ว 8 แห่ง — แหล่งวัฒนธรรม 5 แห่ง และแหล่งธรรมชาติ 3 แห่ง — พร้อมกับอีก 7 แหล่งที่กำลังเตรียมเสนอเพื่อขอรับการขึ้นทะเบียนเป็นเหล่งมรดกโลก เพื่อเกียรติภูมิของชาติ
แหล่งมรดกโลกจึงไม่ใช่เพียง “สถานที่ท่องเที่ยว” หากแต่เป็น “รากเหง้าแห่งความทรงจำเพื่อคนรุ่นถัดไป” ที่สะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างคนกับโลก และคือภารกิจของเราทุกคนในการสืบสานให้มรดกเหล่านี้คงอยู่ตราบนานเท่านาน

ONEP Learning #6

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ เราจะถือว่าคุณรับได้กับเรื่องนี้ แต่คุณสามารถเลือกไม่รับได้หากต้องการ ยอมรับ อ่านเพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy