[สัตตวุฒิ]

สัตตวุฒิ #88751

ขอสอบถามครับ
บริษัทผลิตฟีนอลฟอร์มัลดีไฮด์เรซิน (ทะเบียนโรงงานเดิม 42(1)) มีการใช้ Formaldehyde ซึ่งอยู่ใน IARC class 1
เข้าข่ายต้องจัดทำ EHIA ตาม ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการ ที่อาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย คุณภาพชีวิต ของประชาชนในชุมชนอย่างรุนแรง ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2566 หรือไม่ครับ
หรือไม่จัดเป็นกลุ่มปิโตรเคมี (ลำดับ 50) การพิจารณาว่าเป็น ปิโตรเคมีขั้นกลาง มีหลักเกณฑ์อย่างไรครับ

[เจ้าหน้าที่สผ.]

เจ้าหน้าที่สผ. #91782

ตามที่ท่านได้สอบถามมานั้น กองพัฒนาระบบการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม มีความเห็นดังนี้ว่า
๑. การผลิตฟีนอลฟอร์มัลดีไฮด์เรซิน โดยมีการใช้วัตถุดิบหลักคือ สารฟีนอล ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นกลางมาทำปฏิกิริยากับสารฟอร์มัลดีไฮด์ ซึ่งจัดเป็นสารก่อมะเร็งกลุ่ม ๑ ตามประกาศของ IARC
เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ฟีนอลฟอร์มัลดีไฮด์เรซินของบริษัท กระบวนการผลิตดังกล่าวถือเป็นอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นปลาย ถ้าในกรณีที่บริษัทมีการผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวตั้งแต่ ๑๐๐ ตันต่อวันขึ้นไป
ก็เข้าข่ายเป็นโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการ ที่ต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการ
ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๖ ลงวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๖
เอกสารท้ายประกาศ ๔ ลำดับที่ ๕ อุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่มีกระบวนการผลิตทางเคมี ที่มีกำลังการผลิตตั้งแต่ ๑๐๐ ตันต่อวันขึ้นไป ต้องจัดทำรายงานฯ เสนอในขั้นขออนุญาตก่อสร้างเพื่อประกอบกิจการ
หรือในขั้นขออนุญาตประกอบกิจการ แล้วแต่กรณี
ทั้งนี้ โครงการอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ต้องจัดทำรายงาน EHIA จะต้องเข้าข่ายตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการ ที่อาจมีผลกระทบ
ต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย คุณภาพชีวิต ของประชาชนในชุมชนอย่างรุนแรง
ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๖ ลงวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๖ เอกสารท้ายประกาศ ดังนี้
ลำดับที่ ๔.๑ เป็นโครงการอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นต้น (upstream petrochemical industry) ที่มีการใช้วัตถุดิบที่มาจากการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ และคอนเดนเสท ทุกขนาดหรือที่มีการขยาย
กำลังการผลิตตั้งแต่ร้อยละ ๓๕ ของกำลังการผลิตเดิมขึ้นไป
ลำดับที่ ๔.๒ เป็นโครงการอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นกลาง (intermediate petrochemical industry) ดังนี้
๔.๒.๑ ที่ผลิตสารเคมี หรือใช้วัตถุดิบที่เป็นสารเคมีซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งกลุ่ม ๑ ที่มี
กำลังการผลิตตั้งแต่ ๑๐๐ ตันต่อวันขึ้นไป
๔.๒.๒ ที่ผลิตสารเคมี หรือใช้วัตถุดิบที่เป็นสารเคมีซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งกลุ่ม ๒A ที่มีกำลัง
การผลิตตั้งแต่ ๗๐๐ ตันต่อวันขึ้นไป
๒. หลักเกณฑ์ในการพิจารณาการเป็นอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขั้นกลาง ต้องพิจารณาว่า กระบวนการผลิตเป็นอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่ใช้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นต้นเป็นวัตถุดิบในการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นกลาง
โดยผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นกลางที่ผลิตได้สามารถนำไปใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีขั้นปลายและเคมีอื่นๆ ต่อไป ทั้งนี้ การระบุประเภท (Classification) ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี
ควรตรวจสอบกับสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นไปตามหลักสากล
ทั้งนี้ ท่านสามารถมีหนังสือประสานสำนักงานนโยบายฯ พร้อมแนบเอกสารหรือข้อมูลกระบวนการผลิตและข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการพิจารณาตอบข้อหารือดังกล่าว