18 พฤษภาคม 2566 ไมโครเวฟ ตัวช่วยอุ่นร้อนอาหาร ปลอดภัยทั้งผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม

ที่มา : https://news.trueid.net/detail/mr7oK1ojVE1r
แม้ไมโครเวฟไม่ใช่ของใหม่ แต่จำเป็นต้องรู้จักวิธีการทำงานและวิธีการใช้งานอย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยทั้งของผู้บริโภคและอาหาร โดย รศ.ดร.สุรเชษฐ์ หลิมกำเนิด ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความรู้เรื่องการทำงานของไมโครเวฟ ว่า ไมโครเวฟเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่สูงมากถึง 2,450 ล้านรอบต่อวินาที (แต่ไม่ใช่รังสีในแบบของกัมมันตภาพรังสี) มีลักษณะคล้ายกับคลื่นวิทยุแต่มีความถี่สั้นกว่า นอกจากใช้ในการให้ความร้อนกับอาหารแล้ว ยังใช้เป็นสัญญาณไวไฟสำหรับส่งอินเตอร์เน็ตอีกด้วย ซึ่งคลื่นไมโครเวฟไม่เป็นอันตรายและไม่กระจายหรือสะสมในร่างกายมนุษย์ โดยมีแม็กนิตรอนที่เป็นตัวเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นคลื่นไมโครเวฟ
ทั้งนี้ คลื่นไมโครเวฟจะพุ่งเข้าสู่อาหารจากทุกทิศทุกทางจากด้านในเตาแล้วแผ่กระจายไปสู่อาหาร เมื่อคลื่นไปกระทบอาหาร ทําให้โมเลกุลของอาหารเกิดการสั่นและเสียดสีกัน เกิดเป็นความร้อนทําให้อาหารสุกอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับการที่เราถูมือและแขนเพื่อให้เกิดความอบอุ่น ความร้อนที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้จะช่วยรักษาคุณค่าของอาหารไว้อย่างครบถ้วน นอกจากความสะดวกและรวดเร็วกว่าวิธีการดั้งเดิม ในการให้ความร้อนด้วยเตาแก๊สหรือเตาทั่วไปผ่านกระบวนการหุง ต้ม อบ นึ่ง ปิ้ง ย่าง ทอด ไมโครเวฟยังช่วยประหยัด เพิ่มความปลอดภัย และไร้เขม่าควัน
ผู้บริโภค จำเป็นต้องรู้และเข้าใจวิธีการใช้เตาไมโครเวฟอย่างถูกต้องและปลอดภัย 3 ประการ คือ 1. คลื่นไมโครเวฟไม่สามารถทะลุผ่านภาชนะที่เป็นโลหะหรือมีส่วนผสมของโลหะได้ คลื่นจะสะท้อนกลับ (Reflection) ผิวเคลือบโลหะของภาชนะอาจเกิดความร้อนสูง เกิดเป็นประกายไฟหรือเปลวไฟ ทำอันตรายกับเตาไมโครเวฟได้ 2. คลื่นไมโครเวฟสามารถทะลุผ่าน (Transmission) ภาชนะที่ทำจากแก้ว กระดาษ ไม้ เซรามิกและพลาสติกได้ จึงเป็นภาชนะที่ใช้ได้ดีในเตาไมโครเวฟ และ 3. อาหารทั่ว ๆ ไป ประกอบด้วยโมเลกุลของน้ำ ซึ่งจะดูดซึมคลื่นไมโครเวฟ ทําให้อาหารร้อนอย่างรวดเร็ว แต่ตัวคลื่นจะหายไปทันทีหลังจากให้ความร้อนโดยไม่สะสมในอาหารแต่อย่างใด