24 มีนาคม 2563 จ. เชียงใหม่วิกฤติ อากาศแย่พุ่งอันดับ 1 โลก พ่อเมืองเร่งถกแก้ปัญหา

ที่มา: https://www.naewna.com/local/481275

สภาพอากาศ จ. เชียงใหม่ยังวิกฤติ เว็บไซต์ air visual รายงานคุณภาพอากาศแย่ขึ้นอันดับ 1 ของโลก พ่อเมืองเชียงใหม่เร่งถกคณะทำงานแก้ปัญหา ประสานเครื่องบินกองทัพ โปรยน้ำ จัดเจ้าหน้าที่ดับไฟ กรมควบคุมมลพิษ ได้แจ้งข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ว่า ปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ต. ช้างเผือก อ. เมืองเชียงใหม่ จ. เชียงใหม่ ตรวจวัดปริมาณฝุ่น PM2.5 อยู่ที่ 87 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินค่ามาตรฐานที่ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะที่เว็บไซต์ air visual รายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลก พบว่า คุณภาพอากาศของ จ. เชียงใหม่ มีสภาพปัญหาอย่างหนัก โดยกลับพุ่งขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของโลกอีกครั้ง ซึ่งพบว่า ดัชนีคุณภาพอากาศใน จ.เชียงใหม่ อยู่ที่ 280 US AQI

นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้เรียกประชุมคณะทำงาน เพื่อติดตามสถานการณ์และวางแผนการปฏิบัติงาน หลังจากพบว่า เกิดจุด Hotspot จำนวน 444 จุด ในพื้นที่ 20 อำเภอ 65 ตำบล พบมากที่สุดใน อ. พร้าว 75 จุด อ. สะเมิง 66 จุด และ อ. เชียงดาว 55 จุด ลุกลามในจุดเดิมที่ ต. เมืองคอง 25 จุด และ ต. เมืองนะ 15 จุด ตามลำดับ ทั้งนี้ได้ประสานนำเครื่องบิน BT67 ของกองทัพอากาศ ขึ้นบินโปรยน้ำเพื่อลดความหนาแน่นของฝุ่นควัน บริเวณไนท์บาซาร์ และถนนช้างคลาน ในเวลา 10.00 น. และ 13.00 น.และเครื่องบิน MI 17 ของกองทัพบก ปฏิบัติการเข้าดับในพื้นที่ อ. พร้าว ติดต่อกันเป็นวันที่ 4 เนื่องจากบริเวณที่เกิดจุด hotspot เป็นหน้าผาสูงชัน ยากต่อการเข้าถึงของชุดปฏิบัติการดับไฟป่าภาคพื้นดิน โดยเน้นในพื้นที่ ต. แม่แวน และ ต. แม่ปั๋ง อ. พร้าว ซึ่งเกิดจุดความร้อนมากที่สุด

สถานการณ์ไฟป่าลุกไหม้ใน อ. เชียงดาวยังคงวิกฤต ทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังจากฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติศรีลานนา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดับไฟ แต่ยังไม่สามารถควบคุมได้ ซึ่งวันเดียวกันนี้ ทางทหารจากมณฑลทหารบกที่ 33 ได้จัดชุดปฏิบัติการควบคุมไฟป่า กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 7 เข้าสนับสนุนการลาดลาดตระเวนบริเวณเส้นทางเชียงดาว – เมืองคอง เพื่อเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่า และป้องปรามไม่ให้มีการจุดไฟเผาป่าเพิ่มเติม รวมทั้งกดดันผู้ที่ลอบหาของป่า ล่าสัตว์ ให้เกิดความเกรงกลัว ไม่กล้าลักลอบเข้าไปเผาป่าอีก

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ เราจะถือว่าคุณรับได้กับเรื่องนี้ แต่คุณสามารถเลือกไม่รับได้หากต้องการ ยอมรับ อ่านเพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy