14 กุมภาพันธ์ 2563 ภัยแล้งลามหนักระดมเครื่องสูบน้ำทำประปาประทังถึงฤดูฝน

นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานได้สั่งการให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ ให้การช่วยเหลือเกษตรกร และประชาชนในพื้นที่ที่มีแนวโน้ม หรือกำลังประสบกับปัญหาการขาดแคลนน้ำอย่างเร่งด่วน โดยในขณะนี้สำนักงานชลประทานที่ 6 ได้ให้การช่วยเหลือพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำในพื้นที่รับผิดชอบทั้ง 5 จังหวัดด้วยการสนับสนุนเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือการอุปโภคบริโภคจำนวน 52 เครื่อง และยังได้เตรียมเครื่องสูบน้ำไว้อีก 148 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 9 คัน และเครื่องจักร เครื่องมือต่างๆ พร้อมเข้าช่วยเหลือได้ทันที
สำหรับสถานการณ์น้ำใน จ. ชัยภูมิ ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 1 แห่ง ได้แก่ เขื่อนจุฬาภรณ์ มีปริมาณน้ำเก็บกักประมาณ 42 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 25 ของความจุอ่าง เป็นน้ำใช้การได้ประมาณ 5 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 4 ของความจุอ่าง อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง จำนวน 9 แห่ง มีปริมาณน้ำเก็บกักประมาณ 34 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 36 ของความจุอ่าง เป็นน้ำใช้การได้ประมาณ 28 ล้าน ลบ.ม. พบว่า มีอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำน้อยกว่าร้อยละ 30 ของความจุอ่าง อยู่จำนวน 7 แห่ง
ขณะนี้ จ. ชัยภูมิได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งจำนวน 16 อำเภอ 1,645 หมู่บ้าน สำหรับพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำดิบสำหรับการผลิตประปามี 2 สาขา ได้แก่ การประปาส่วนภูมิภาคสาขาภูเขียว และการประปาส่วนภูมิภาคสาขาเกษตรสมบูรณ์ กรมชลประทานวางแผนจัดสรรน้ำจากเขื่อนจุฬาภรณ์ และเขื่อนห้วยกุ่ม ลงแม่น้ำพรมเชิญเพื่อเติมน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปา ทั้งนี้ นอกจากเร่งให้ความช่วยเหลือพื้นที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำแล้ว ยังเน้นย้ำให้โครงการชลประทานทุกพื้นที่ ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ลดการสูบน้ำไปใช้ในกิจกรรมอื่น เนื่องจากมีปริมาณน้ำที่จำกัดสำหรับใช้ในการอุปโภคบริโภคเท่านั้น พร้อมทั้งขอความร่วมมือทุกภาคส่วนตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรน้ำ ใช้น้ำอย่างประหยัด ปฏิบัติตามแผนการจัดสรรน้ำที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด เพื่อให้มีน้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคตลอดฤดูแล้งนี้ไปจนถึงต้นฤดูฝนอย่างไม่ขาดแคลน “กำชับเจ้าหน้าที่โครงการชลประทานทั่วประเทศให้มีความพร้อมทั้งทางด้านเครื่องจักร เครื่องมือ และกำลังคน ที่จะเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำอย่างทันท่วงที เพื่อให้ทุกพื้นที่มีน้ำอุปโภคบริโภคไม่ขาด ตามนโยบายของรัฐบาล” นายทองเปลว กล่าว
นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล กรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่ อธิบดีกรมชลประทาน สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดเตรียมความพร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ และกำลังคน ให้พร้อมเข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ตลอดเวลา สำนักเครื่องจักรกล กรมชลประทาน จึงสั่งการให้สำนักเครื่องจักรกลทั่วประเทศ ปฏิบัติตามนโยบายของท่านอธิบดีกรมชลประทานอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทั้งนี้สำนักเครื่องจักรกล ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 16 x 12 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง ในพื้นที่ ต. จันทิมาอ. ลานกระบือ เพื่อเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำ โดยทำการสูบน้ำจากคลองชลประทาน ส่งไปยังอ่างเก็บน้ำสำหรับใช้ผลิตน้ำประปาให้กับ อ. ลานกระบือ จ. กำแพงเพชร
นอกจากนี้ ยังสนับสนุนรถบรรทุกน้ำ ขาด 6,000 ลิตร และรถบรรทุก 10 ล้อ ติดเครน เพื่อนำน้ำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนกว่า 70 หลังคาเรือน ในพื้นที่บ้านบุ่งผลำ หมู่ 7 ต. น้ำกุ่มอ. นครไทย จ. พิษณุโลก โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภคให้แก่ประชาชนในพื้นที่ อีกทั้งนำเครื่องจักร เครื่องมือ กำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำ รวมถึงการขุดลอกคลอง เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของน้ำได้มากขึ้น เพื่อให้การลำเลียงน้ำไปช่วยสนับสนุนแหล่งน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประปาในพื้นที่ต่างๆ ได้เต็มศักยภาพ อาทิ บริเวณแม่น้ำน้อย จ. พระนครศรีอยุธยา บริเวณคลองระบายน้ำที่ 10 พื้นที่ตำบลหนองโรง อ. หนองแค จ. สระบุรี บริเวณคลองระพีพัฒน์แยกใต้ พื้นที่ ต.ศาลาครุ อ. หนองเสือ คลอง 13 สาย กลาง พื้นที่ ต. พืชอุดม อ. ลำลูกกา จ. ปทุมธานี บริเวณคลองมหาสวัสดิ์พื้นที่ ต.ศาลายา อ. พุทธมณฑล จ. นครปฐม บริเวณคลองบางเหลง พื้นที่ ต. ท้องลำเจียก อ. เชียรใหญ่ จ. นครศรีธรรมราช เป็นต้น
ทั้งนี้ สำนักเครื่องจักรกล กรมชลประทาน ได้นำเครื่องจักร เครื่องมือ และกำลังคน เข้าให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือนร้อนของประชาชนในด้านการสนับสนุนน้ำผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคให้เพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้