29 สิงหาคม 2564 หนุน ทสม. กว่า 2.5 แสนคน โซ่ข้อกลาง เฝ้าระวังทรัพยากรธรรมและสิ่งแวดล้อมทั่วไทย

ที่มา : https://www.naewna.com/local/598331
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เปิดเผยว่า เพื่อให้การอนุรักษ์ ฟื้นฟู และปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่นคงความอุดมสมบูรณ์ และเป็นฐานทรัพยากรที่มั่นคง เพื่อให้คนในชุมชนและประชาชนในประเทศได้ใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน และส่งเสริมให้เกิดการกินดี อยู่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ดังนั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) จึงได้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของ “อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน หรือ ทสม.” ที่ขับเคลื่อนโดยกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม (สส.) ด้วยเป็นหนึ่งในพลังสำคัญที่สามารถมีส่วนร่วมกันดูแลทรัพยากรธรรมและสิ่งแวดล้อมของประเทศตามยุทธศาสตร์ของกระทรวงฯ โดยการดำเนินงานของเครือข่าย ทสม. ในปัจจุบันครอบคลุมทั้ง 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร รวมจำนวน 258,619 คน พร้อมกันนี้ยังได้เข้าร่วมเป็นจิตอาสาพระราชทานแล้วกว่า 116,625 คน
“เครือข่าย ทสม. ถือเป็นเครือข่ายภาคประชาชนที่มีความเข้มแข็งและมีความพร้อมในบทบาทของ “โซ่ข้อกลาง” ที่จะหนุนเสริมการทำงานของภาครัฐและเอกชน ในรูปแบบการบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน ที่เน้นหลักการทำงาน 4 ป. ได้แก่ ป – ประสานความร่วมมือ ป – ประชาสัมพันธ์ ป – ปฏิบัติ สนับสนุนการดำเนินงานโครงการ กิจกรรมต่างๆ ในท้องถิ่น และ ป – ประเมินผล เพื่อดำเนินการกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมตามประเด็น และบริบทของพื้นที่ อาทิ กิจกรรมด้านการจัดการขยะ กิจกรรมด้านทรัพยากรป่าไม้ กิจกรรมด้านทรัพยากรน้ำ และกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ เช่น การพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ โคก หนอง นาโมเดล เป็นต้น”รมว.ทส. กล่าว
นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ การทำงานของเครือข่าย ทสม. ภายใต้สภาวการณ์สังคมปัจจุบัน ยังได้คำนึงถึงรูปแบบวิถีใหม่ตามแนวคิด “ทสม. วิถีใหม่ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ที่ให้ความสำคัญกับมิติทางด้านสิ่งแวดล้อม ในการปกป้องดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับมิติทางด้านสุขภาพ ในการป้องกัน และควบคุมดูแลสุขภาวะของชุมชนให้มีสุขภาพดี เอื้อต่อการมีคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคนในชุมชน ทั้งยังคงเน้นยำให้เครือข่าย ทสม. เป็นแกนนำกำลังสำคัญที่จะส่งเสริมให้ชุมชนช่วยกันลดและเลิกใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทดแทน เพื่อเป็นการรณรงค์สร้างจิตสำนึกรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งป้องกันและแก้ไขปัญหาให้เกิดความต่อเนื่องและให้ผลเป็นรูปธรรมต่อไป