ที่มา: https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_6416938

สร้อยลูกประคำทองคำของสมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ ๑ แห่งสกอตแลนด์ ที่ทรงสวมใส่ขณะถูกประหารชีวิตข้อหากบฏ เมื่อ ปี ค.ศ.๑๕๘๗ (พ.ศ.๒๑๓๐) เป็นสมบัติที่ไม่อาจทดแทนได้ ถูกขโมยไปพร้อมกับเครื่องประดับทำจากทองคำและเงินจากปราสาทอารันเดล มณฑลเวสต์ซัสเส็กซ์ เหตุการณ์ดังกล่าวเพิ่งได้รับการเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเหตุสร้อยลูกประคำควีนแมรีถูกขโมยเมื่อเวลา ๒๒.๓๐ น. เมื่อคืนวันศุกร์ที่ ๒๑ พ.ค. โดยฝีมือโจรหลายคนแอบเข้ามาทางหน้าต่างและทุบตู้กระจกฉกเอาของมีค่าไป ขณะที่สัญญาณกันขโมยดับลง โฆษกปราสาทอารันเดลกล่าวว่า สมบัติที่ถูกขโมยไปมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างประเมินค่าไม่ได้ แม้สร้อยประคำที่ทำจากโลหะมีมูลค่าไม่สูงนัก แต่เป็นทรัพย์สินทางประวัติศาสตร์ของครอบครัวฮาวเวิร์ดและเป็นมรดกชาติที่ไม่มีอะไรมาทดแทนได้ “สิ่งที่ถูกขโมยไปมีมูลค่ามหาศาล แต่งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นของสะสมของดยุกแห่งนอร์ฟอล์กมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ขอให้ประชาชนที่ทราบเบาะแสข้อมูลช่วยแจ้งตำรวจเพื่อนำสมบัติกลับมาคืนที่เดิมด้วย” โฆษกของปราสาทกล่าว แอนดริว กริฟฟิธส์ ส.ส.อารันเดลและเซาท์ ดาวส์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่น่าเศร้าและประณามแก๊งหัวขโมยว่าเป็นอาญากรที่ก่อกรรมต่อประเทศชาติ สมาคมโบราณคดีไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ ทวีตข้อความว่าข่าวร้ายจากอารันเดลช่างเลวร้ายยิ่งนัก หัวขโมยมาจากพวกเราและขโมยมรดกของพวกเรา

ปีเตอร์ สไควส์ อาจารย์ด้านอาชญวิทยา มหาวิทยาลัยไบรตันกล่าวว่า มีพวกขโมยโบราณวัตถุและสิ่งประดิษฐ์ที่สะท้อนถึงวัฒนธรรมเป็นจำนวนมากอย่างน่าตกใจและเป็นการขโมยตามใบสั่ง ในที่สุด ของเหล่านี้ก็จะตกไปอยู่ในคอลเลกชันสะสมส่วนตัวของเศรษฐี นักวิชาการท่านนี้ให้สัมภาษณ์วิทยุบีบีซีในซัสเส็กส์ว่า ในสมรภูมิรบตะวันออกกลางมีหลักฐานมากมายที่ยืนยันว่าพิพิธภัณฑ์มากมายถูกปล้นหรือลักขโมยโบราณวัตถุและจากนั้นไม่นาน สิ่งของเหล่านี้ก็จะไปปรากฏในเว็บมืดที่กลุ่มนายหน้าเท่านั้นที่จะเข้าร่วมประมูลได้ ทองคำอาจจะถูกหลอม ทำให้ลดมูลค่าลงไปมาก แต่เป็นจุดประสงค์ของพวกโจรที่จะหาใครสักคนที่ต้องการสิ่งอื่นๆ มากกว่ามูลค่าทองคำแท่ง ตำรวจฝ่ายสืบสวนสอบสวนโอ มัลลีย์ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในอารันเดลเมื่อคืนวันศุกร์แลเห็นใครทำพฤติกรรมแปลกๆ แถวๆ ปราสาท ให้แจ้งตำรวจหรือโทรศัพท์สายด่วน 101 ปราสาทแห่งนี้เพิ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวชมเมื่อวันอังคารที่ 18 พ.ค. ดังนั้น หากมีใครไปที่ปราสาทเมื่อ 2-3 วันก่อนหน้าก็อาจจะเห็นบางคนทำอะไรต้องสงสัย หรือหากได้ยินใครพูดถึงการขายของที่ขโมยมาก็ขอให้แจ้งตำรวจ02:0ความเกี่ยวพันกับคดีนี้

สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ ๑ คือใคร

สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ ๑ แห่งสกอตแลนด์ ประสูติที่พระราชวังลินลิธโกว ในปี ค.ศ.๑๕๔๒ (พ.ศ.๒๐๘๕) และทรงขึ้นครองราชย์เป็นพระราชินี หลังจากพระราชบิดาสวรรคตได้ไม่นาน หลังจากพระองค์ประสูติ แต่หลังจากอภิเษกสมรสกับเจ้าชายฟร็องซัว โดแฟ็งแห่งฝรั่งเศส พระนางจึงเป็นพระราชินีของฝรั่งเศสและผู้สำเร็จราชการปกครองสกอตแลนด์ ต่อมา พระนางเสด็จนิวัติกลับสกอตแลนด์ในปี ค.ศ.๑๕๖๑ (พ.ศ.๒๑๐๔) และทรงขึ้นครองราชย์ แต่ถูกบีบบังคับให้ทรงสละราชบัลลังก์เมื่อมีพระชนมายุ ๒๔ พรรษา หลังจากเกิดความวุ่นวายนาน ๖ ปี หลังจากความพยายามขึ้นครองราชย์อีกครั้งล้มเหลว สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ ๑ เสด็จไปยังอังกฤษเพื่อขออยู่ในความคุ้มครองของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ ๑ แห่งอังกฤษซึ่งเป็นพระญาติ ต่อมาเกิดศึกชิงบัลลังก์ เมื่อสมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ ๑ แห่งสกอตแลนด์ อ้างว่าราชบัลลังก์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ ๑ เป็นของพระองค์ โดยมีชาวอังกฤษที่นับถือคาทอลิกสนับสนุน ทำให้เกิดความแตกแยกในราชสำนักอังกฤษ ก่อนแยกเป็นนิกายแองกลิคัน พระราชินีชาวสกอตจึงถูกกักขังเป็นเวลาถึง ๑๘ ปี ก่อนที่จะถูกประหารที่ปราสาทฟอธริงเฮย์ในปี ค.ศ.๑๕๘๗ (พ.ศ.๒๑๓๐) ขณะมีพระชนมายุ ๔๔ พรรษา จากนั้น พระเจ้าเจมส์ที่ ๖ ซึ่งเป็นพระโอรสของพระนางทรงขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์ปกครองสกอตแลนด์และอังกฤษ