16 ธันวาคม 2562 กรมควบคุมมลพิษดีเดย์ 18 ธค. งดใช้รถส่วนตัว หวังลดปริมาณPM2.5

ที่มา: https://www.naewna.com/local/460410
นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า กรมฯติดตามผลการตรวจสอบคุณภาพอากาศในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) 44 สถานี พบคุณภาพอากาศอยู่ในระดับคุณภาพดีถึงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ตรวจพบค่าระหว่าง 32 – 66 ไมโครกรัมต่ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) เกินมาตรฐาน 14 สถานี ริมถนนดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพฯ, ต. นครปฐม อ. เมืองนครปฐม จ. นครปฐม, ต. ทรงคะนอง อ. พระประแดง จ. สมุทรปราการ, ต. ปากน้ำ อ. เมืองสมุทรปราการ, ต. อ้อมน้อย อ. กระทุ่มแบน จ. สมุทรสาคร, สูงสุดที่ต. มหาชัย อ. เมืองสมุทรสาครวัดได้ 65 มคก./ลบ.ม. ทั้งนี้ สาเหตุจากสภาพอากาศหนาว หรือร้อน อาจมีส่วนบ้างกับปริมาณฝุ่น โดยเฉพาะฝุ่นPM 2.5 แต่ปัจจัยหลักก็คือ กิจกรรมของผู้คน และปริมาณลม ที่ผ่านมาวันที่ 3-7 ธันวาคมสังเกตว่า กรุงเทพฯมีอากาศค่อนข้างหนาว มีลมพัดด้วย จึงไม่มีปัญหาเรื่องปริมาณฝุ่นแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน วันที่ 10-14 ธันวาคม อากาศยังเย็นอยู่ แต่ลมสงบ จึงเกิดปัญหาขึ้น กระทั่งวันนี้ พอมีลมบ้าง ปัญหาฝุ่นยังมี แต่ก็เริ่มน้อยลง โดยลมนั้นเกิดจากความแตกต่างของอุณหภูมิร้อนและเย็น เช่น การที่แดดส่องตอนกลางวันทำให้พื้นดินดูดซับความร้อนเอาไว้ และแม้จะหมดแสงแดดไปแล้ว แต่ความร้อนที่พื้นดูดซับเอาไว้ก็ยังทำให้เกิดอากาศร้อนอยู่ ต่อเมื่อความร้อนหมดไปช่วงดึกอากาศจะเปลี่ยนจากร้อนเป็นเย็น ช่วงนี้ทำให้เกิดลม โดยลมมักจะเกิดตอนหัวรุ่ง และตอนดึกๆ ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าแดดออกกลางวัน แต่ไม่ถึงกับร้อน อีกทั้งลมตัวหลักที่พัดจากประเทศจีนก็ค่อนข้างอ่อน ทำให้เกิดปัญหาเรื่องฝุ่นขึ้นมา “วันที่ 16-17 ธันวาคมที่จะถึงนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่าลมค่อนข้างสงบ แสดงว่าวันนั้นปริมาณฝุ่นขนาดเล็กก็จะมีปัญหาขึ้นมาอีก”อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าว และว่า สำหรับมาตรการต่างๆ นั้น กรมควบคุมมลพิษพยายามทำ และรณรงค์ต่อเนื่องมาตลอด และสิ่งหนึ่งที่ต้องทำเพิ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคมเป็นต้นไปคือ ตนทำหนังสือเวียนภายในกรม ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ทุกคน ที่มีอยู่ประมาณ 200 คนว่า ทุกวันพุธขอให้ไม่ใช้รถส่วนตัวมาทำงาน ให้นั่งรถสาธารณะ แม้กระทั่งให้คนที่บ้านมาส่งก็ขอร้องไม่ให้ทำ ขอแค่อาทิตย์ละ 1 วัน ตนก็จะทำด้วยเช่นกัน โดยจะนั่งรถไฟฟ้ามาทำงาน นอกจากนี้ยังกำชับรองอธิบดีทุกคน ผู้อำนวยการสำนัก ผู้อำนวยการส่วน และกองต่างๆก็จะไม่มีใครนำรถส่วนตัวมาใช้ในวันนั้น ทุกคนก็รับปากว่าจะปฏิบัติตามที่นายกรัฐมนตรีระบุว่า การแก้ปัญหาฝุ่นขนาดเล็กนั้น ต้องเริ่มจากตัวเราก่อน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ากรมควบคุมมลพิษ เป็นหน่วยงานที่อยู่กับงาน อยู่กับปัญหานี้โดยตรง ตนไม่กล้าไปสั่งใครคนอื่นเรื่องห้ามขับรถส่วนตัวมาทำงาน เพราะเป็นการเพิ่มปริมาณฝุ่นบนท้องถนน จึงต้องทำในหน่วยงานตัวเองก่อน เขอความร่วมมือ และทุกคนก็พร้อมปฏิบัติร่วมกัน คาดว่าทุกวันพุธปริมาณฝุ่นขนาดเล็ก ในพื้นที่ คพ.จะลดลง แม้ไม่มากจากเจ้าหน้าที่ ที่มีรถประมาณ 150 คัน ก็จะลดลงแน่นอน การขอความร่วมมือดังกล่าวจะทำติดต่อกันทุกสัปดาห์ ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองในกรุงเทพฯ สรุปผลการตรวจวัด PM2.5 น ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ 39-61 มคก./ลบ.ม. พบว่าเกินมาตรฐานที่ 50 มคก./ลบ.ม. 8 พื้นที่ ได้แก่ เขตปทุมวัน บริเวณริมถนนจามจุรีสแควร์ เยื้อง MRT สามย่าน : มีค่าเท่ากับ 56 มคก./ลบ.ม. เขตบางคอแหลม บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม เขตคลองสาน หน้าห้องสมุดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสิน : มีค่าเท่ากับ 56 มคก./ลบ.ม. เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม (ประมาณซอยเพชรเกษม 36) : มีค่าเท่ากับ 52 มคก./ลบ.ม. เขตบางซื่อ ภายในสำนักงานเขตบางซื่อ : มีค่าเท่ากับ 54 มคก./ลบ.ม. เขตหลักสี่ ภายในสำนักงานเขตหลักสี่ : มีค่าเท่ากับ 56 มคก./ลบ.ม. เขตบางเขน ภายในสำนักงานเขตบางเขน : มีค่าเท่ากับ 61 มคก./ลบ.ม. และเขตบางพลัด ภายในสำนักงานเขตบางพลัด : มีค่าเท่ากับ 55 มคก./ลบ.ม.สำหรับวันนี้กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์สภาพอากาศในพื้นที่กรุงเทพมหานครจะมีท้องฟ้าโปร่ง กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กทม. สรุปผลตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ช่วงเวลา 13.00-15.00 น. ตรวจวัดได้ 39-63 มคก./ลบ.ม. ค่าเฉลี่ย 49 มคก./ลบ.ม. ค่า PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและมีค่าเกินมาตรฐานอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 7 เขต ได้แก่ เขตปทุมวัน เขตบางคอแหลม เขตคลองสาน เขตภาษีเจริญ เขตบางเขน เขตบางซื่อ และเขตหลักสี่ โดยบริเวณริมถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด หนักที่สุด.