12 ธันวาคม 2562 ผลศึกษาพบยายวาฬออร์กาเพิ่มอัตราอยู่รอดของหลาน

ผลศึกษาตีพิมพ์ใน Proceedings of the National Academy of Sciences ระบุว่า วาฬเพชฌฆาต หรือวาฬออร์กา เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่พึ่งพาวาฬรุ่นยายเฝ้าดูลูกหลาน สิ่งมีชีวิตเพศเมียหลังวัยเจริญพันธุ์ ยังมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกหลายสิบปี เป็นวงจรชีวิตที่รู้กันว่ามีแค่ในมนุษย์ และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นอีก 4 ชนิด ได้แก่ วาฬออร์กา วาฬไพล็อตครีบสั้น วาฬนาร์วาล และวาฬเบลูกา โดยในมนุษย์ เชื่อกันว่าเป็นวิวัฒนาการที่เอื้อต่อการดูแลคนรุ่นหลัง ทฤษฎีที่เรียกกันว่า แกรนมาเทอร์ เอฟเฟคท์ ( Grandmother Effect ) แต่ไม่เคยรู้กันมาก่อนว่าเป็นปราฏการณ์ในวาฬออร์กาด้วย
แดเนียล แฟรงส์ หัวหน้าทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยยอร์ค กล่าวว่า นี่เป็นตัวอย่างแรกของแกรนด์มาเทอร์ เอฟเฟคท์ ในวาฬออร์กาหลังวัยเจริญพันธุ์ นักวิจัยวิเคราะห์ข้อมูลประชากรวาฬเพชฌฆาต 2 ฝูง นอกชายฝั่งรัฐวอชิงตัน ของสหรัฐและจังหวัดบริทิชโคลัมเบียของแคนาดา พบว่า ลูกวาฬที่สูญเสียแม่ของแม่ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการตายสูงกว่าตัวที่ยังดำรงชีวิตอยู่กับยาย 4.5 เท่า หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง การมียายอยู่ด้วย ลดอัตราการตายของวาฬน้อยลงได้ นอกจากนี้ ผลกระทบจะยิ่งชัดเจนมากขึ้นในยามขาดแคลนอาหาร
ผลศึกษาพบว่าการสูญเสียยายวาฬออร์กา คือการขาดผู้รอบรู้ว่า แซลมอนชีนุกที่วาฬออร์กาในแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือชอบกินอยู่ตรงไหน และมักเป็นผู้นำพาฝูงไปหาอาหาร อาศัยภูมิปัญญาทางนิเวศน์ที่มีมากกว่า การวิจัยชิ้นนี้ช่วยไขปริศนาบทบาทของวาฬหลังพ้นวัยเจริญพันธุ์ หรือตอบคำถามว่าเหตุใด สัตว์บางชนิดยังมีชีวิตอยู่อีกนานหลังจากหมดความสามารถในการแพร่พันธุ์แล้ว นอกจากนี้ นักวิจัยยังสงสัยว่า ผู้อาวุโสในฝูงยังสวมบทบาทพี่เลี้ยงคล้ายกับคน เพราะเวลาแม่ดำน้ำลงไปจับปลา ยายก็อยู่กับหลานแทน ก้าวต่อไป นักวิจัยจะใช้โดรนสังเกตพฤติกรรมวาฬออร์กา และทำความเข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัวให้มากขึ้น