19 ธันวาคม 2563 มท. กำชับทุกจังหวัด งัด 6 มาตรการป้องกัน ลดฝุ่นพิษ-หมอกควัน

ที่มา : https://www.naewna.com/local/539641
รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า ช่วงปลายฤดูหนาวของทุกปี ประเทศไทยจะเกิดสถานการณ์ฝุ่นละอองเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวมีสาเหตุหลักจากกิจกรรมต่างๆ ทั้งโดยธรรมชาติและกิจกรรมของมนุษย์ อาทิ การคมนาคมขนส่ง การเผาในที่โล่ง ไฟป่า ภาคอุตสาหกรรม การก่อสร้าง หมอกควันข้ามแดน และสภาพทางอุตุนิยมวิทยา รวมทั้งสภาพภูมิประเทศในบางพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงที่ลมสงบ ส่งผลให้ระดับเพดานการลอยตัวและการกระจายตัวของฝุ่นละอองอยู่ในระดับต่ำ การไหลเวียนและถ่ายเทอากาศไม่ดี ทำให้เกิดการสะสมฝุ่นละอองในบรรยากาศเพิ่มสูงขึ้นบางช่วงเวลาในหลายพื้นที่
รมว.มหาดไทย กล่าวว่า เพื่อเตรียมป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ช่วงปลายปี 2563 ต้นปี 2564 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงสั่งการไปยังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ดำเนินการ 6มาตรการ ได้แก่
1. ถือปฏิบัติตามหลักในการอำนวยการ สั่งการ ควบคุมและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
2. ทบทวนและจัดทำแผนเผชิญเหตุสำหรับใช้แก้ปัญหาในพื้นที่รับผิดชอบ
3. ตั้งคณะทำงานติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ ติดตามสถานการณ์การเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยี อาทิ ภาพถ่ายดาวเทียม และ Application เสริมประสิทธิภาพการติดตามตรวจสอบข้อมูลคุณภาพอากาศและการบัญชาการดับไฟป่า ตลอดจนใช้เป็นข้อมูลในการอำนวยการ สั่งการและแจ้งเตือนประชาชน
4. เน้นย้ำการป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง (แหล่งกำเนิด) โดยบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งการควบคุมและลดมลพิษจากยานพาหนะ การก่อสร้าง ภาคอุตสาหกรรม ครัวเรือนและสร้างการรับรู้ ความตระหนักให้แก่ประชาชน
5. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยประสานอำเภอ อปท.ในพื้นที่ เร่งสร้างความเข้มแข็งและเสริมสร้างความรู้ให้ผู้นำชุมชน จิตอาสา อาสาสมัคร และประชาชน ในการสร้างเครือข่ายเฝ้าระหว่าง ติดตาม และตรวจสอบคุณภาพอากาศ รวมทั้งขยายเครือข่ายแจ้งเตือนและสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนทราบถึงสถานการณ์ที่ถูกต้อง
6. ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ประชาชนให้ตระหนักถึงผลกระทบจากกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก แนวทางปฏิบัติการดูแลสุขภาพ มาตรการต่างๆ ภาครัฐและข้อกฎหมาย
ทั้งนี้ หากสถานการณ์อยู่ในภาวะที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ให้เร่งบูรณาการทุกหน่วยงานให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยเร็ว