7 ธันวาคม 2568 เซ็นทรัล ทำ ปลุกชีวิตข้าวพื้นเมือง 10 สายพันธุ์ เปิดเสน่ห์ข้าวไทยใน Rice Fest 2025

ในหลายพื้นที่ของไทย ข้าวไม่ใช่เพียงอาหารหลัก หากแต่คือเรื่องราวที่ผูกพันกับผู้คน ผืนดิน และภูมิปัญญาที่สืบทอดมาต่อเนื่องหลายชั่วอายุคน ข้าวบางพันธุ์กำลังเลือนหายไปตามกาลเวลา ขณะที่บางพันธุ์ยังซ่อนเสน่ห์เฉพาะถิ่นไว้อย่างงดงาม การรักษาเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ไว้จึงไม่ใช่เพียงการอนุรักษ์อาหาร หากเป็นการเก็บรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่ยังมีชีวิต ด้วยมุมมองเช่นนี้ โครงการ ‘เซ็นทรัล ทำ ทำด้วยกันทำด้วยใจ’ ของกลุ่มเซ็นทรัล จึงขับเคลื่อนการอนุรักษ์และต่อยอด ‘ข้าวไทยพันธุ์พื้นเมือง’ มาอย่างต่อเนื่อง พร้อมเป้าหมายในการหนุนเศรษฐกิจฐานรากและสร้างโอกาสใหม่ให้กับชุมชนผู้ปลูกทั่วประเทศ โดยในปีนี้ เซ็นทรัล ทำ รวบรวมข้าวพื้นเมือง 10 สายพันธุ์ จาก 7 จังหวัด 8 ชุมชนทั่วประเทศ และมูลนิธิชัยพัฒนา นำมาจัดแสดงและจัดจำหน่าย ภายใน ‘เซ็นทรัล ทำ พาวิลเลียน’ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘ข้าว ไทย ทำ’ ในงาน ‘Thailand Rice Fest 2025’ เทศกาลข้าวใหญ่ที่สุดของประเทศ เปิดพื้นที่ให้ผู้คนได้สัมผัสคุณค่าของข้าวไทยทั้งในเชิงรสชาติ คุณค่าทางโภชนาการ ตลอดจนเรื่องราวที่หล่อหลอมมาเป็นตัวตนของแต่ละพื้นที่

ภายในพาวิลเลียน ผู้ชมจะได้สัมผัสความหลากหลายของข้าวจากเหนือจรดใต้ ทั้งข้าวหายาก ข้าว GI และข้าวพื้นถิ่นที่มีคุณสมบัติเด่นเฉพาะตัว ตัวอย่างเช่น

  1. ข้าวหอมมะลิ GI (สุรินทร์): เมล็ดเรียวยาว มีกลิ่นหอมใบเตยเด่น เป็นข้าว GI ที่ขึ้นชื่อด้านรสชาติและสารต้านอนุมูลอิสระ
  2. ข้าวผกาอำปึล: ข้าวพื้นถิ่นสุรินทร์ที่มีกลิ่นคล้ายข้าวโพดข้าวเหนียว เหนียวนุ่ม ดัชนีน้ำตาลต่ำ
  3. ข้าวหอมมะลิแดง: สีแดงเข้ม กลิ่นหอมชัด โดดเด่นเรื่องวิตามินบีและการบำรุงเลือด
  4. ข้าวฮางหอมมะลิ / ข้าวฮางข้าวเหนียว (สกลนคร): ผ่านการแปรรูปแบบข้าวฮางที่ช่วยดึงสารอาหารสูง โดยเฉพาะ GABA ที่ดีต่อสมอง
  5. ข้าวสังข์หยด (พัทลุง): ข้าวไทยพันธุ์แรกที่ได้ GI หุงนุ่มมากและอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

การทำงานร่วมกับเซ็นทรัล ทำ ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน

ราคาข้าวเพิ่มจากราว 45–50 บาท/กก. เป็น 179 บาท/กก.
มีช่องทางจำหน่ายมั่นคง ทั้งในงานเทศกาล ร้าน Good Goods และร้านอาหารในเครือ เช่น Spaghetti Factory และ Kuu Kuu
ได้รับการสนับสนุนด้าน อุปกรณ์ผลิต, การออกแบบบรรจุภัณฑ์, และ การพัฒนาคุณภาพ
พื้นที่ปลูกขยายจาก 2–3 ไร่ เป็นราว 300 ไร่ ภายในไม่กี่ปี เพราะชาวบ้านกลับมาสนใจปลูกอีกครั้ง
นอกจากสร้างรายได้ ชุมชนยังใช้พื้นที่โรงเรียนเป็นศูนย์เรียนรู้ ถ่ายทอดวิถีการทำนาให้เด็กและผู้ปกครองตามแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้การอนุรักษ์พันธุ์ข้าวผูกโยงกับการเรียนรู้และความภาคภูมิใจของทั้งชุมชน

ที่มา : เดลินิวส์ (www.dailynews.co.th/news/5370920/)

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ เราจะถือว่าคุณรับได้กับเรื่องนี้ แต่คุณสามารถเลือกไม่รับได้หากต้องการ ยอมรับ อ่านเพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy