25 พฤศจิกายน 2568 ‘นักสืบผลไม้’ ชาวอิตาลีแข่งกับเวลาเพื่อรักษาพันธุ์พืชที่ถูกลืม

นางอิซาเบลลา ดัลลา ราโจเน วัย 68 ปี ค้นหาผลไม้ที่ถูกลืม ในแปลงปลูกและสวนผลไม้ที่ถูกทิ้งร้าง เพื่อรักษามรดกทางการเกษตรของอิตาลี และอนุรักษ์พันธุ์ผลไม้ที่อาจช่วยให้เกษตรกรสามารถรับมือกับความไม่แน่นอนของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
คอลเลกชันแอปเปิล ลูกแพร์ เชอร์รี พลัม พีช และอัลมอนด์ของดัลลา ราโจเน ซึ่งปลูกโดยใช้วิธีการแบบเก่า มีความทนทานต่อ
การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และสภาพอากาศสุดขั้วที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งกว่าเดิมในแถบเมดิเตอร์เรเนียนตอนใต้

ดัลลา ราโจเน นักวิชาการเกษตรที่ผันตัวมาเป็นนักสืบ ตามหาคำอธิบายเกี่ยวกับผลไม้ท้องถิ่นในอดีต ในบันทึกประจำวันหรือเอกสารทางการเกษตรที่มีอายุหลายร้อยปี และค้นหาพวกมัน อีกทั้งเธอยังระบุผลไม้ชนิดอื่น ๆ ด้วยการเปรียบเทียบกับผลไม้ในภาพวาดยุคเรเนซองส์ในบรรดาพันธุ์ผลไม้ราว 150 สายพันธุ์ที่รวบรวมจากแคว้นต่าง ๆ ของอิตาลี ได้แก่ ทัสกานี อุมเบรีย เอมีเลีย-โรมัญญา และมาร์เก และปลูกโดยมูลนิธิอาร์เคโอโลเจีย อาร์บอเรีย (Archeologia Arborea) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ลูกแพร์ฟลอเรนซ์ทรงกลมขนาดเล็ก เป็นหนึ่งในพันธุ์ผลไม้โปรดของดัลลา ราโจเน

“ฉันพบคำอธิบายเกี่ยวกับลูกแพร์ชนิดนี้ในเอกสารจากช่วงทศวรรษที่ 1500 แต่ฉันไม่เคยเห็นมันมาก่อน และเชื่อว่ามันหายสาบสูญไปแล้ว แต่เมื่อ 15 ปีก่อน บนเทือกเขาระหว่างแคว้นอุมเบรียกับแคว้นมาร์เก ฉันเจอต้นไม้ต้นหนึ่งที่อยู่เกือบกลางป่า และนั่นต้องขอบคุณหญิงชราในท้องถิ่นที่เล่าเรื่องผลไม้ชนิดนี้ให้ฟังโดยบังเอิญ” แม้พันธุ์ผลไม้เก่าแก่มีรสชาติอร่อย แต่ส่วนใหญ่ก็หายไปจากตลาดและบนโต๊ะอาหาร หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เนื่องจากระบบเกษตรกรรมของอิตาลีถูกพัฒนาให้ทันสมัยขึ้น

อนึ่ง อิตาลีเป็นผู้ผลิตผลไม้รายใหญ่ ซึ่งการผลิตลูกแพร์ของประเทศอยู่ในอันดับหนึ่งของยุโรป และอันดับสามของโลก
แต่มีเพียง 5 สายพันธุ์ใหม่ คิดเป็นมากกว่า 80% ของผลผลิตทั้งหมด ซึ่งไม่มีสายพันธุ์ใดเป็นของอิตาลีเลย ตลาดสมัยใหม่ต้องการผลผลิตผลไม้จำนวนมากที่สามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างรวดเร็ว เก็บรักษาได้ง่าย และเก็บไว้ได้นาน อย่างไรก็ตาม ภาวะโลกร้อนทำให้สภาพอากาศมีความท้าทายมากขึ้น ซึ่งผู้สันทัดกรณีหลายคนกล่าวว่า ความหลากหลายทางพันธุกรรมของพืช เป็นกุญแจสำคัญ

ด้านนายมาริโอ มาริโน จากแผนกการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ(FAO)

และผู้ให้คำปรึกษาแก่มูลนิธิของดัลลา ราโจเน กล่าวว่า พันธุ์พื้นเมืองสามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ การขาดแคลนน้ำที่รุนแรงขึ้น ตลอดจนสภาพอากาศที่หนาวจัดหรือร้อนจัด“แต่ถึงอย่างนั้น มันก็มีโรคที่ร้ายแรงกว่า ซึ่งพันธุ์ที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว มักจะต้านทานโรคได้ดีกว่า ขณะที่พันธุ์พื้นเมืองจะตาย หรืออาจไม่ออกผล ด้วยเหตุนี้ คำตอบจึงอยู่ที่การสร้างสายพันธุ์ใหม่ด้วยการผสมข้ามสายพันธุ์ ระหว่างพันธุ์สมัยใหม่กับพันธุ์ดั้งเดิม” มาริโน กล่าวเพิ่มเติม ทั้งนี้ มาริโนชี้ให้เห็นว่า งานของดัลลา ราโจเน ถือเป็น “เรื่องเร่งด่วน” เพราะการอนุรักษ์มรดก หมายถึงการอนุรักษ์ผืนดิน การอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ และการอนุญาตให้ใช้ดีเอ็นเอนั้นเพื่อทรัพยากรทางพันธุกรรมใหม่

ที่มา: เดลินิวส์ (www.dailynews.co.th/news/5331988/)

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ เราจะถือว่าคุณรับได้กับเรื่องนี้ แต่คุณสามารถเลือกไม่รับได้หากต้องการ ยอมรับ อ่านเพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy