12 พฤศจิกายน 2568 ดีมานด์อาคารสำนักงานสีเขียวทั่วโลกลดลง หลังสหรัฐฯ ถอยนโยบายสิ่งแวดล้อม
การเติบโตของความต้องการ อาคารสำนักงานสีเขียว ทั่วโลกชะลอตัวลง หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ดำเนินนโยบายลดการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ความสนใจในสหรัฐอเมริกาตกต่ำ ตามผลสำรวจของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมก่อสร้าง
ตามรายงานของสมาชิกสถาบัน Rics ระบุว่า ผู้เช่าพื้นที่และนักลงทุนในอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้รายงานว่า ความต้องการอาคารพาณิชย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งดูเหมือนเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงทิศทางนโยบายของสหรัฐฯ ขณะที่ความต้องการในส่วนอื่นของโลกก็ลดลงเช่นกัน แม้ไม่รุนแรงเท่า
ขณะที่ตามข้อมูลของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ระบุว่า อาคารที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ร่วมกันปล่อยก๊าซคาร์บอนคิดเป็น 34% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลก ในปี 2023 โดยส่วนใหญ่เกิดจากการทำความร้อน การทำความเย็น และการใช้พลังงานในอาคาร ขณะที่ประมาณหนึ่งในห้ามาจากกระบวนการก่อสร้าง
องค์การสหประชาชาติระบุว่า ภาคอาคารจำเป็นต้องเร่งดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศโลก อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจของ Rics ชี้ว่าผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมก่อสร้างทั่วโลกกำลังเผชิญการเติบโตของความต้องการที่ชะลอตัว ตั้งแต่การใช้วัสดุที่ลดปริมาณคอนกรีตที่มีคาร์บอนสูง การลดการใช้น้ำ การลดความร้อนสูญเสียผ่านหน้าต่าง ไปจนถึงการใช้พลังงานหมุนเวียน
การปรับปรุงประสิทธิภาพพลังงานยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ตอบแบบสำรวจในสหรัฐฯ จำนวนหนึ่งยังคงรายงานว่าความสนใจในอาคารพาณิชย์ที่ยั่งยืนเพิ่มขึ้น แต่สัดส่วนของผู้เชี่ยวชาญด้านอาคารที่รายงานความต้องการสูงขึ้นทั่วทวีปลดลงอย่างมาก จาก 25% เหลือเพียง 11% นอกเหนือจากอเมริกาเหนือและใต้ สัดส่วนผู้เชี่ยวชาญที่รายงานการเติบโตของความต้องการอยู่ที่ 40% แม้จะลดลงจาก 48% ในปี 2021 ซึ่งเป็นปีแรกที่ทำการสำรวจ
แต่ก็ยังสูงกว่าสหรัฐฯ อย่างมาก
คิซา เซห์รา นักวิเคราะห์ด้านความยั่งยืนของ Rics กล่าวว่า การกำหนดนโยบายและกฎระเบียบของภาครัฐมีอิทธิพลอย่างมากต่อความเชื่อมั่นของตลาด อย่างที่รัฐบาลทรัมป์ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ในการรื้อถอนมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมจำนวนมากที่ออกโดยทั้งรัฐบาลรีพับลิกันและเดโมแครตในอดีต ทำให้ความเชื่อมั่นต่อมาตรฐานสีเขียวสั่นคลอน
Rics ยังระบุถึงแนวโน้มลดลงของจำนวนผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่ตรวจวัดคาร์บอนแฝง ในโครงการของตน เช่น คาร์บอนที่ปล่อยจากการผลิตเหล็ก แก้ว และคอนกรีต หรือจากกระบวนการก่อสร้างเอง โดย 46% ของผู้เชี่ยวชาญรายงานว่าไม่ได้วัดคาร์บอนแฝง เพิ่มขึ้นจาก 34% ในปีก่อนหน้า และมีเพียง 16% ของผู้ตอบแบบสำรวจเท่านั้นที่ระบุว่าการวัดคาร์บอนมีอิทธิพลต่อการเลือกใช้วัสดุ
ในการออกแบบโครงการอย่างมีนัยสำคัญ
ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ (https://www.thansettakij.com/sustainable/net-zero/643710)