14 ตุลาคม 2568 พลาสติกภัยคุกคามชีวภาพ-เศรษฐกิจ ‘ทั่วโลก’ ชุมชนฐานรากคือกำลังสำคัญพลิกฟื้นทะเล

จากเต่าทะเลในอินโดนีเซียที่ต้องแหวกกองขยะพลาสติกไปวางไข่ ไปจนถึงป่าชายเลนในโคลอมเบียที่เต็มไปด้วยไมโครพลาสติก วิกฤตมลพิษพลาสติกที่ทวีความรุนแรงกำลังกัดเซาะความหลากหลายทางชีวภาพ คุกคามสุขภาพประชาชน และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ทว่าความหวังได้จุดประกายขึ้นจากโครงการระดับรากหญ้า ที่พิสูจน์แล้วว่าการแก้ปัญหาสองด้านพร้อมกันจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ยั่งยืน

วิกฤติเงียบ พลาสติกทำลายระบบนิเวศและเศรษฐกิจโลก ทั่วโลกมีขยะพลาสติกประมาณ 20 ล้านเมตริกตัน ถูกทิ้งสู่สิ่งแวดล้อมทุกปี ซึ่งย่อยสลายเป็นอนุภาคเล็ก ๆ ที่แทรกซึมเข้าสู่ระบบนิเวศ ห่วงโซ่อาหาร และแม้กระทั่งกระแสเลือดของมนุษย์ สิ่งเหล่านี้กำลังบีบรัดแนวปะการัง วางยาพิษสัตว์น้ำ และทำลายแหล่งที่อยู่อาศัยที่สำคัญ เช่น แปลงหญ้าทะเลและป่าชายเลน ซึ่งเป็นปราการธรรมชาติที่ช่วยป้องกันพายุและเป็นแหล่งอาหารเลี้ยงผู้คนหลายล้านคน

ผลกระทบนี้รุนแรงเป็นพิเศษในประเทศชายฝั่งทะเลที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวและการประมงโดยมลพิษพลาสติกในทะเลทำให้บางประเทศสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยว การประมงที่เสื่อมโทรม และค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาด หลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยภาระที่หนักที่สุดตกอยู่กับชุมชนในประเทศซีกโลกใต้ที่พร้อมรับมือน้อยที่สุด นอกจากนี้ งานวิจัยจาก PwC ระบุว่า 55% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ทั่วโลก ต้องพึ่งพาความหลากหลายทางชีวภาพและบริการจากระบบนิเวศโดยตรง ในขณะที่ภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะสร้างมูลค่า 16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับ GDPโลกภายใน พ.ศ. 2577  ก็มีความเสี่ยงที่จะสร้างขยะมากถึง 205 ล้านตันต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพลาสติก และเป็นภัยคุกคามต่อระบบนิเวศที่เป็นรากฐานของการท่องเที่ยวเอง

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ (https://www.bangkokbiznews.com/environment/1202594)

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ เราจะถือว่าคุณรับได้กับเรื่องนี้ แต่คุณสามารถเลือกไม่รับได้หากต้องการ ยอมรับ อ่านเพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy