4 ตุลาคม 2568 ฮือฮา! ค้นพบพืชสุดหายาก ‘ดอกไม้ผี’ ไร้ใบ ไม่มีคลอโรฟิลล์ ตัวตนลึกลับ

สุดว้าวกับปริศนา ‘ดอกไม้ผี’ ไร้ใบ ไร้แสง ตัวตนลึกลับ ระดับ Extremely..Rare นักวิจัยพบ ครั้งแรกเฉพาะพื้นที่เชียงใหม่ – เชียงราย โชว์ตัวผ่านโซเชียลครั้งแรกในไทย

2 ตุลาคม 2568 – ที่จังหวัดเชียงใหม่ ดร.วรนาถ ธรรมรงค์ นักอนุกรมวิธานพืช สำนักวิจัยและอนุรักษ์ องค์การสวนพฤกษศาสตร์ เปิดเผยว่า ทีมนักวิจัยจาก องค์การสวนพฤกษศาสตร์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ วิทยาเขตแพร่และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีได้มีการค้นพบครั้งประวัติศาสตร์ ‘ดอกไม้ผี’ ไร้ใบ ไร้แสง ตัวตนลึกลับระดับ Extremely Rare ชื่อทางวิทยาศาสตร์ 𝙈𝙤𝙣𝙤𝙩𝙧𝙤𝙥𝙖 𝙪𝙣𝙞𝙛𝙡𝙤𝙧𝙖 L. หรือที่รู้จักกันในชื่อ ghost plant, ghost pipe หรือ Indian pipe คือ ชื่อของพืชสุดหายาก ที่กำลังสร้างความตื่นเต้นในวงการพฤกษศาสตร์และการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของไทย

การค้นพบครั้งสำคัญในแดนสยาม แม้ว่าก่อนหน้านี้ 𝙈. 𝙪𝙣𝙞𝙛𝙡𝙤𝙧𝙖 จะมีรายงานการค้นพบในหลายประเทศทั่วโลก เช่น สหรัฐอเมริกา เม็กซิโก ปากีสถาน ทิเบต อินเดีย เนปาล พม่า จีน เกาหลีและญี่ปุ่น แต่การยืนยันการมีอยู่ของพืชชนิดนี้ในประเทศไทยเพิ่งจะได้รับการตีพิมพ์เผยแพร่อย่างเป็นทางการ
ในวารสารพฤกษศาสตร์ไทยเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมานี้เอง

ทั้งนี้ ในประเทศไทยพืชลึกลับชนิดนี้พบเพียงแค่ในเขตพื้นที่ป่าดิบเขาต่ำของจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย เท่านั้น โดยจะปรากฏตัวในระดับความสูงที่ค่อนข้างจำกัด คือ 1,800–2,150 เมตร จากระดับทะเล ออกดอกในช่วงเดือนกันยายน โดยพืชชนิดนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่ง เพราะมันไม่ได้สังเคราะห์ด้วยแสงเหมือนพืชทั่วไป แต่กลับอยู่รอดด้วยการเป็น ไมโคเฮเทอโรโทรฟ (Mycoheterotroph) นั่นคือ การดำรงชีวิตแบบอาศัยการดูดซับสารอาหารจากเชื้อราในดินอย่างสมบูรณ์

         พืชไร้คลอโรฟิลล์ 𝙈. 𝙪𝙣𝙞𝙛𝙡𝙤𝙧𝙖 ปัจจุบันยังไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการในภาษาไทย จัดอยู่ในวงศ์กุหลาบป่า (Ericaceae) ซึ่งเป็นวงศ์ที่มีความหลากหลายและมีเสน่ห์ พืชล้มลุกชนิดนี้มีลักษณะโดดเด่นด้วยลำต้นที่สูงได้ถึง 30 ซม. ช่อดอกตั้งตรงและปลายโค้งลง มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอกสีขาวขุ่นโปร่งใส อย่างละ 5 กลีบ ทำให้รูปลักษณ์ดูเหมือนจะเรืองแสงอ่อน ๆ ในความมืดมิดของป่า ซึ่งอาจเป็นที่มาของฉายา “ดอกไม้ผี” ghost plant ปัจจุบัน สถานภาพการอนุรักษ์ของพืชชนิดนี้ ยังไม่ถูกจัดอันดับในระดับสากล แต่ในประเทศไทยถือเป็นพืชที่อยู่ในระดับหายากอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ตามเมื่อ กรกฎาคมที่ผ่านมา ดร.วรนาถ ก็เพิ่งเผยข้อมูลพืชหายากที่หายไป 113 ปี คือ Heterostemma หรือที่ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Apocynaceae ซึ่งโดยส่วนใหญ่มีถิ่นกำเนิดในอินเดีย จีน ไต้หวัน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั่วภูมิภาคมาเลเซียไปจนถึงออสเตรเลีย หมู่เกาะโซโลมอน และนิวแคลิโดเดีย ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์ได้ระบุพืชในสกุลนี้ว่า มีอยู่ราว 30-40 ชนิด โดยในประเทศไทยมีการพบอยู่ 8 สายพันธุ์ และในประเทศลาวก็มีอยู่ราว 3 สายพันธุ์เท่านั้น

ที่มา : ไทยโพสต์ (https://www.thaipost.net/district-news/872245/)

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ เราจะถือว่าคุณรับได้กับเรื่องนี้ แต่คุณสามารถเลือกไม่รับได้หากต้องการ ยอมรับ อ่านเพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy