25 กันยายน 2568 ผุดไอเดีย สร้าง ‘ดาต้าเซ็นเตอร์’ นอกโลก แก้ปัญหาใช้พลังงานมาก ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม

เอไอ” เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อรองรับความต้องการดังกล่าว บริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ กำลังเร่งสร้างศูนย์ข้อมูลเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะรู้ดีว่ากำลังทำให้โลกร้อน เพราะพลังงานมากกว่าครึ่งหนึ่งที่ใช้ขับเคลื่อนศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่เหล่านี้มาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และจำเป็นต้องใช้น้ำปริมาณมากในการระบายความร้อน

บริษัทชั้นนำด้านปัญญาประดิษฐ์หลายแห่ง จึงวางแผนจะย้ายศูนย์ข้อมูลไปไว้นอกโลก อัลท์แมน ได้เสนอให้สร้างศูนย์ข้อมูลทรงกลมไดสันรอบดวงอาทิตย์ ซึ่งเป็นโครงสร้างขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้น รอบดวงดาว เพื่อกักเก็บพลังงานส่วนใหญ่ แต่แนวคิดนี้ค่อนข้างจะเกิดขึ้นได้ยาก เพราะอาจต้องใช้ทรัพยากรมากกว่าที่มีอยู่บนโลก และอาจทำให้ดาวเคราะห์นี้อยู่อาศัยไม่ได้

ฟังดูอาจเป็นเรื่องเพ้อเจ้อที่จะย้ายศูนย์ข้อมูลไปไว้นอกโลก แต่อัลท์แมนไม่ใช่คนเดียวที่กำลังพิจารณาเรื่องนี้ เจฟฟ์ เบซอส และเอริก ชมิดท์ ก็กำลังเดิมพันกับแนวคิดนี้เช่นกัน และบริษัทสตาร์ทอัพอย่าง Starcloud, Axiom และ Lonestar Data Systems ได้ระดมทุนหลายล้านดอลลาร์เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูลในอวกาศ (แต่ไม่ได้เวอร์เท่าแนวคิดของอัลท์แมน)

สหรัฐมีศูนย์ข้อมูลอย่างน้อย 5,400 แห่ง ตั้งแต่ศูนย์ข้อมูลขนาดเล็กไปจนถึงศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับเซิร์ฟเวอร์ได้หลายพันเครื่อง และจำนวนศูนย์ข้อมูลเหล่านี้กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว คาดว่าภายในปี 2028 ศูนย์ข้อมูลเหล่านี้จะใช้พลังงานไฟฟ้ามากถึง 12% จากทั้งหมดในประเทศ ดังนั้น การนำศูนย์ข้อมูลเหล่านี้ไปใช้งานในอวกาศจึงอาจดูเหมือนเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะเป็นการแก้ปัญหาการใช้พลังงานด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน และช่วยให้ชุมชนต่าง ๆ หลุดพ้นจากภาระมลพิษทางอากาศ เสียง และน้ำ ไม่เพียงเท่านั้น ศูนย์ข้อมูลบนอวกาศยังสามารถให้บริการเฉพาะทางแก่ยานอวกาศและสิ่งอำนวยความสะดวกทางอวกาศอื่น ๆ ได้ด้วย และการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างอวกาศนั้นเร็วกว่าการถ่ายโอนจากภาคพื้นดิน

อาลี ฮาจิมิริ วิศวกรไฟฟ้าและศาสตราจารย์ประจำโครงการพลังงานแสงอาทิตย์อวกาศ (Space Solar Power Project) สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (Caltech) ได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรสำหรับ “ระบบคำนวณแบบพาราเรลขนาดใหญ่ในอวกาศ” ซึ่งก็คือศูนย์ข้อมูล

ในตอนนี้ความเป็นไปยิ่งมากขึ้น เมื่อต้นทุนการปล่อยยานลดลง เหลือประมาณ 1,500 ดอลลาร์ต่อกิโลกรัม และแผงโซลาร์เซลล์ก็มีน้ำหนักเบาลงและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ฮาจิมิริและเพื่อนร่วมงานได้เสนอระบบพลังงานแสงอาทิตย์บนอวกาศน้ำหนักเบา ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 10 เซนต์ต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งถูกกว่าระบบที่เทียบเคียงกันบนโลกอย่างมาก

ในทางทฤษฎี เทคโนโลยีดังกล่าวสามารถให้พลังงานแก่ศูนย์ข้อมูลในวงโคจรได้ เช่นเดียวกับที่อัลท์แมนจินตนาการไว้ แต่ฮาจิมิริจะยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถสร้างออกมาได้ในระดับอุตสาหกรรมหรือไมฮาจิมิริเชื่อว่าศูนย์ข้อมูลในอวกาศอาจเป็นทางออกที่ใช้งานได้จริงในอนาคต แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะทำได้จริง “แน่นอนว่ามันจะทำได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า คำถามคือมันจะมีประสิทธิภาพแค่ไหน และจะคุ้มค่าแค่ไหน” เขากล่าว

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ (https://www.bangkokbiznews.com/environment/1200256)

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ เราจะถือว่าคุณรับได้กับเรื่องนี้ แต่คุณสามารถเลือกไม่รับได้หากต้องการ ยอมรับ อ่านเพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy