27 สิงหาคม 2568 พลังงานหนุนโรงไฟฟ้าขยะแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม-เพิ่มมั่นคงพลังงาน

กระทรวงพลังงานเดินหน้าหนุนโรงไฟฟ้าขยะช่วยแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานให้ประเทศ ลดการนำเข้าจากต่างประเทศ

นายวีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงมุ่งส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดหลากหลายรูปแบบ ตามนโยบายพลังงานของประเทศ โดยโรงไฟฟ้าขยะถือว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่สามารถใช้ผลิตไฟฟ้าและแก้ปัญหาขยะมูลฝอยได้ ทั้งนี้
โรงไฟฟ้าขยะหนองแขมเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าที่เปลี่ยนปัญหาให้เป็นประโยชน์สามารถกำจัดขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพตามหลักสุขาภิบาล ลดการฝังกลบ และยังมีผลพลอยได้เป็นพลังงานไฟฟ้าที่ช่วยเสริมระบบไฟฟ้าของประเทศ ซึ่งถือเป็นโมเดลที่สามารถนำไปต่อยอดในพื้นที่อื่นๆ ได้
สำหรับโรงไฟฟ้าขยะหนองแขมนั้นมีศักยภาพในการกำจัดขยะได้ 500 ตันต่อวัน และสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 9.8 เมกะวัตต์ (MW) ด้วยเทคโนโลยีเตาเผาแบบตะกรับที่อุณหภูมิสูง 850-1,100 องศาเซลเซียสทำให้การเผาไหม้สมบูรณ์และปลอดภัย

“โรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถแก้ไขปัญหาขยะและได้ประโยชน์จากการผลิตไฟฟ้าไปพร้อมกัน ซึ่งเป็นเป้าหมายส าคัญของกระทรวงพลังงาน โดยเป็นส่วนหนึ่งในสร้างความมั่นคงทางด้านพลังงาน และลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศได้”

นายเหอ หนิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีแอนด์จี เอ็นไวรอนเมนทอล โปรเท็คชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันกรุงเทพมหานคร ได้นำเทคโนโลยีการกำจัดขยะมูลฝอยด้วยวิธีเผาไหม้ความร้อนสูงมาใช้ในการบริหารจัดการขยะมูลฝอยด้วย
เทคโนโลยีเตาเผาแบบตะกรับ หรือ Stoker type ภายในศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม ซึ่งเป็นโรงงานต้นแบบแห่งแรก และเปิดดำเนินการมาแล้วมากกว่า 9 ปี สามารถจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้พื้นที่ในการบริหารจัดการน้อยมากเมื่อเทียบกับวิธีการกำจัดขยะมูลฝอยแบบฝังกลบ
นอกจากนี้ยังสามารถน าความร้อนจากการเผาไหม้มาใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าโดยกระบวนการทำงานของโรงกำจัดขยะผลิตไฟฟ้าเพื่อสิ่งแวดล้อม หนองแขม ทั้งหมดควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ในห้องปฏิบัติการ นายเหอ หนิง กล่าวอีกว่า ในปี 69 บริษัทฯ มีแผนจะเปิดโรงงานหนองแขมแห่งที่ 2 สามารถรองรับขยะมูลฝอยได้มากถึง 1,600 ตันต่อวัน ผลิตไฟฟ้า 30 เมกะวัตต์ต่อวัน และอีก 1 แห่ง ภายในศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช ที่มีขนาดความจุเท่ากันกับโรงงานหนองแขมแห่งที่ 2 ดำเนินการโดย บริษัท นิวสกาย เอ็นเนอร์จี (แบงค็อก) จำกัด (บริษัทใน
เครือ) และหากเปิดดำเนินการครบทั้ง 3 แห่ง จะช่วยลดประมาณขยะมูลฝอยของกรุงเทพมหานครที่ต้องนำไปฝังกลบ ลดลงได้ประมาณ 37% จากปริมาณขยะมูลฝอยจริง 10,000 ตันต่อวัน โดยกระบวนการทั้งหมดเกิดขึ้นในระบบปิด จึงช่วยป้องกันกลิ่นเหม็นจากขยะมูลฝอยสด ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยลดมดมลพิษและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ที่มา: ฐานเศรษฐกิจ (www.thansettakij.com/economy/energy/636874)