13 สิงหาคม 2568 13 ส.ค. “วันหมาป่าโลก” ผู้พิทักษ์ระบบนิเวศ ที่ถูกเข้าใจว่าเป็นตัวร้าย
วันที่ 13 สิงหาคม ของทุกปีถูกกาหนดให้เป็น “วันหมาป่าโลก” (International Wolf Day) เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงบทบาทสาคัญของหมาป่าในระบบนิเวศ และกระตุ้นให้สังคมหันมาร่วมกันปกป้องสัตว์นักล่าชั้นสูงที่กาลังเผชิญภัยคุกคามจากมนุษย์และการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม หมาป่าถือเป็น ผู้ล่าชั้นสูง (Apex Predator) ที่มีบทบาทสาคัญในการควบคุมจานวนสัตว์กินพืช เช่น กวางหรือเอลก์ การล่าของหมาป่าช่วยป้องกันไม่ให้พืชพรรณถูกกินจนเกินสมดุล และเอื้อต่อความหลากหลายทางชีวภาพในระบบนิเวศ ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “Trophic Cascade ””..เช่น กรณีการนาหมาป่ากลับคืนสู่อุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตน สหรัฐฯ ที่ช่วยฟื้นฟูทั้งพืชพรรณ แหล่งน้า และสัตว์อื่น ๆ ให้กลับมาอุดมสมบูรณ์
อย่างไรก็ตาม หมาป่าในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย กาลังเผชิญการลดจานวนลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจัยสาคัญมาจากการถูกมองว่าเป็นภัยต่อปศุสัตว์ ภาพลักษณ์ด้านลบจากนิทานและวัฒนธรรม การถูกล่าโดยตรง รวมถึงการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัยจากการตัดไม้ทาลายป่า
ในประเทศไทยไม่มีหมาป่าสายพันธุ์เทาแบบในทวีปยุโรปหรืออเมริกาเหนือ แต่มีสัตว์นักล่าที่ทาหน้าที่คล้ายกัน คือ หมาใน (Dhole) และ หมาจิ้งจอกทอง (Golden Jackal)
•
หมาใน (Cuon alpinus จัดเป็นสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (Endangered) พบได้ในป่าที่อุดมสมบูรณ์ เช่น เขาใหญ่ แม่วงก์ และห้วยขาแข้ง อาศัยอยู่รวมเป็นฝูง ล่าเหยื่อร่วมกัน และมีบทบาทควบคุมสมดุลของสัตว์กินพืชในป่า
•
หมาจิ้งจอกทอง (Canis aureus เป็นสัตว์ที่ปรับตัวได้ดี พบได้ในพื้นที่ป่าโปร่งหรือใกล้ชุมชนบางแห่ง มีบทบาทช่วยควบคุมประชากรสัตว์ขนาดเล็ก เช่น หนู และสัตว์เลื้อยคลาน
ทั้งสองชนิดมีความสาคัญต่อระบบนิเวศไทย แต่ก็เผชิญความเสี่ยงจากการสูญเสียถิ่นที่อยู่ การรบกวนจากมนุษย์ และโรคจากสัตว์เลี้ยง
องค์กรอนุรักษ์ทั่วโลกและในไทยต่างใช้ “วันหมาป่าโลก” เป็นเวทีเผยแพร่ความรู้และรณรงค์ให้สาธารณชนเข้าใจคุณค่าของหมาป่า รวมถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างมนุษย์กับสัตว์ป่า โดยสิ่งที่ทุกคนสามารถทาได้ ได้แก่เรียนรู้และเปลี่ยนทัศนคติที่ผิดเกี่ยวกับหมาป่า ปกป้องถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า และหยุดการตัดไม้ทาลายป่า รวมถึงส่งเสริมมาตรการลดความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ เช่น การใช้รั้วไฟฟ้าป้องกันปศุสัตว์
ดังนั้น วันหมาป่าโลก ไม่ได้เป็นเพียงวันเฉลิมฉลองให้สัตว์นักล่าเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสให้เราได้ทบทวนความสัมพันธ์ของมนุษย์กับธรรมชาติ และร่วมกันปกป้องผู้พิทักษ์ระบบนิเวศให้คงอยู่คู่โลกตลอดไป
ที่มา: http://www.tnnthailand.com (https://www.tnnthailand.com/earth/ 208125)