17 มิถุนายน 2568 ชู”จังหวัดตาก”พัฒนาเศรษฐกิจตามหลัก BCG
เมื่อเร็วๆ นี้ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้ร่วมกับโครงการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากพระราชดำริจังหวัดตาก (ผาแดง) ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) รวมถึงภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร แม่สอด จ.ตาก เพื่อส่งมอบองค์ความรู้ด้านการอนุรักษ์ฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพและเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนในพื้นที่เหมืองผาแดง จำนวน 9 โครงการย่อย ซึ่งจัดแบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มความหลากหลายทางชีวภาพ กลุ่มผลิตภัณฑ์จากวัสดุเกษตร และกลุ่มการถ่ายทอดเทคโนโลยี
เพื่อชุมชน ให้กับกรมป่าไม้และชุมชนต่าง ๆ รอบผาแดง เพื่อเป็นกลไกในการสร้างความยั่งยืน
ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ยกระดับเศรษฐกิจชุมชน และรักษาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะเป็นประโยชน์สูงสุดแก่ชุมชนและจังหวัดตากในระยะยาวต่อไป
ดร.สิทธิโชค ตั้งภัสสรเรือง รองผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ
(ไบโอเทค) สวทช. กล่าวว่า จากแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงมีพระราชดำริให้พัฒนาพื้นที่เหมืองผาแดง จังหวัดตาก ซึ่งเคยเป็นเหมืองแร่สังกะสี ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ธรรมชาติเพื่อการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน ทางไบโอเทค สวทช.
จึงได้ดำเนินโครงการ “การอนุรักษ์ฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพและเสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนในพื้นที่เหมืองผาแดง ตามโมเดล BCG” โดยมีระยะเวลาดำเนินงานในปี พ.ศ. 2567 – 2568 เพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติและภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างยั่งยืน โครงการนี้ประกอบด้วย 9 โครงการย่อย แบ่งเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้
กลุ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ได้แก่ 1. การสร้างคลังข้อมูลเห็ดป่าและเห็ดสมุนไพร และ2. การสร้างคลังข้อมูลราทำลายแมลง ซึ่งเราได้สร้างฐานข้อมูลสำคัญของพื้นที่ โดยการจัดทำคลังข้อมูลจุลินทรีย์กลุ่มเห็ด ทั้งเห็ดป่าที่บริโภคได้และเห็ดสมุนไพร รวมถึงคลังข้อมูลราที่สามารถควบคุมแมลงศัตรูพืชได้ ฐานข้อมูลเหล่านี้คือขุมทรัพย์ทางความรู้ที่จะเป็นรากฐานในการต่อยอดใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพอย่างยั่งยืนในอนาคต
กลุ่มผลิตภัณฑ์จากวัสดุเกษตร ได้แก่ 3 กาแฟหมักยีสต์ 4 น้ำส้มสายชูหมักจากเปลือกกาแฟ และ 5 อิฐชีวภาพจากวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร ซึ่งเราได้นำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมายกระดับผลผลิตทางการเกษตรของชุมชน อาทิ การพัฒนา “กาแฟหมักยีสต์” เพื่อสร้างเอกลักษณ์ใหม่ให้กับกาแฟแม่สอด การแปรรูปเปลือกกาแฟที่เคยเป็นของเหลือทิ้งให้กลายเป็น “น้ำส้มสายชูหมัก” มูลค่าสูง และการสร้าง “อิฐชีวภาพ” จากเศษวัสดุการเกษตร ซึ่งทั้งหมดนี้คือตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมของเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่เปลี่ยนของเหลือทิ้งให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม
ที่มา : เดลินิวส์ออนไลน์ (https://www.dailynews.co.th/news/4818528/)