9 มีนาคม 2566 รู้จัก “สนธิสัญญาทะเลหลวง” โอกาสสุดท้ายของมหาสมุทร

ที่มา : https://www.thansettakij.com/sustainable/zero-carbon/558322
ทำความรู้จัก “สนธิสัญญาทะเลหลวง High Seas Treaty” โอกาสแห่งความหลากหลายทางชีวภาพในมหาสมุทร หลัง 200 ประเทศ ร่วมลงนามข้อตกลง
เป็นเวลานานกว่า 2 ทศวรรษ ที่มีการพูดคุยเกี่ยวกับ “สนธิสัญญาทะเลหลวง” (High Seas Treaty) มาถึงวันนี้เราได้เห็นการปกป้องพื้นที่ทะเล เมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ที่สำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ (UN) ในมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา 200 ประเทศ ร่วมลงนามในข้อตกลงนี้ เพื่อกำหนดให้พื้นที่ 30% ของทะเลทั่วโลกเป็นพื้นที่คุ้มครอง ภายในปี 2573 เป็นการเจรจาครั้งประวัติศาสตร์และโอกาส
ครั้งสุดท้ายในการปกป้องมหาสมุทรของโลก
ปัจจุบัน มหาสมุทรถูกคุกคามโดยอุตสาหกรรมประมง รวมทั้งมลพิษที่สร้างผลกระทบกับปะการังและดอกไม้ทะเล ทุกปี สัตว์ทะเลจำนวน 1 ล้านตัน ถูกอวนประมงจับกว่าหมื่นตัวเป็นเต่าทะเล ฉลามและโลมา ในขณะเดียวกันขยะพลาสติกราว 8 ล้านตัน ถูกทิ้งลงสู่ทะเล
ทะเลหลวงเป็นผืนน้ำขนาดมหึมา อยู่ห่างจากน่านน้ำของประเทศต่างๆ ออกไป 200 ไมล์ทะเล คิดเป็นมากกว่า 60% ของมหาสมุทรทั่วโลกตามพื้นที่ผิว เป็นที่อยู่อาศัยของสายพันธุ์และระบบนิเวศ ที่มีเอกลักษณ์มากมาย และยังเป็นแหล่งประมงทั่วโลกซึ่งผู้คนหลายพันล้านคนต้องพึ่งพาอาศัย และเป็นกันชนสำคัญต่อวิกฤตสภาพอากาศ โดยมหาสมุทรได้ดูดซับความร้อนส่วนเกินของโลกไว้มากกว่า 90% ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา
สนธิสัญญามหาสมุทร มีเป้าหมายเพื่อเติมเต็มช่องว่างเหล่านั้นโดยให้อำนาจทางกฎหมาย
ในการสร้างและจัดการพื้นที่คุ้มครองทางทะเลในน่านน้ำสากล ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า สิ่งนี้มีความสำคัญต่อการประชุมนานาชาติที่ให้คำมั่นสัญญาด้านความหลากหลายทางชีวภาพในการประชุม COP15 ขณะนี้ประเทศต่าง ๆ ต้องยอมรับและให้สัตยาบันสนธิสัญญาอย่างเป็นทางการ จากนั้นงานจะเริ่มดำเนินการเขตรักษาพันธุ์สัตว์น้ำและพยายามบรรลุ
เป้าหมายในการปกป้อง 30% ของมหาสมุทรทั่วโลก