9 พฤศจิกายน 2564 ทะเลทรายชิลีกลายเป็นที่ทิ้งขยะแฟชั่น

ที่มา:

https://www.pptvhd36.com/news/ต่างประเทศ/160124

ทะเลทรายอาตากามาในประเทศชิลีกำลังเผชิญกับมลภาวะจากเสื้อผ้าแฟชั่นรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ หลังเสื้อผ้าถูกทิ้งจำนวนมากกองเป็นภูเขาจนเป็นภาพที่น่าตกใจ ผลกระทบทางสังคมของลัทธิบริโภคนิยมในอุตสาหกรรมเสื้อผ้า เช่น การใช้แรงงานเด็ก หรือค่าแรงที่ถูกแสนถูก แต่ผลกระทบร้ายแรงต่อสิ่งแวดล้อมนั้นถูกพูดถึงน้อยกว่า

ประเทศชิลีเป็นศูนย์กลางของเสื้อผ้ามือสอง และเสื้อผ้าที่ขายไม่ออกมานานแล้ว  เสื้อผ้าที่ไม่ว่าจะผลิตในจีน หรือบังกลาเทศ เดินทางผ่านทวีปยุโรป เอเชีย หรือประเทศสหรัฐอเมริกา ก่อนจะมาถึงประเทศชิลี และนำไปขายต่อในประเทศแถบละตินอเมริกา แต่ละปีจะมีเสื้อผ้าราว 59,000 ตัน เข้ามาที่ท่าเรืออิกิเก (Iquique) ในเขตปลอดอากร อัลโต โฮสปิซิโอ (Alto Hospicio) ทางตอนเหนือของประเทศชิลี เสื้อผ้าบางส่วนมีพ่อค้าแม่ค้าจากกรุงซานติอาโก เมืองหลวงที่อยู่ห่างไปทางใต้ 1,800 กม. มาเหมาไป ขณะที่อีกจำนวนมากถูกลักลอบขนออกไปยังประเทศอื่น ๆ ในละตินอเมริกา  แต่ก็ยังมีอีกไม่น้อยกว่า 39,000 ตันที่ขายไม่ได้ และถูกทิ้งเป็นขยะอยู่ในทะเลทราย ผู้ประกอบธุรกิจผลิตแผ่นฉนวนจากเสื้อผ้าที่ถูกทิ้งกล่าวว่า เสื้อผ้าเหล่านี้ไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ และมีส่วนประกอบของสารเคมี ดังนั้นบ่อขยะของเทศบาลจึงไม่รับขยะประเภทนี้

รายงานของสหประชาชาติเมื่อปี 2019 ระบุว่า ทั่วโลกผลิตเสื้อผ้าเพิ่มขึ้นเท่าตัวระหว่างปี 2000-2014 และอุตสาหกรรมนี้เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดน้ำเสียร้อยละ 20 ยกตัวอย่างจากการผลิตกางเกงยีนส์ตัวหนึ่งต้องใช้น้ำถึง 7,500 ลิตร รายงานฉบับเดียวกันระบุว่า การผลิตเสื้อผ้า และรองเท้ามีส่วนปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 8 และทุก ๆ วินาที จะมีผ้าถูกฝัง หรือเผาเทียบเท่ากับรถขยะหนึ่งคัน