7 พฤษภาคม 2567 โลกรวนกระทบต่อเศรษฐกิจ 8.3 หมื่นล้าน/ปี เกษตรกรรายได้น้อย คนเมืองเสี่ยงสุด

โลกส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคเกษตรกร

ที่มา https://www.springnews.co.th/keep-the-world/climate-change/850068

โลกรวน โลกเดือด โลกร้อน ไม่ว่าจะโลกอะไรก็ล้วนแต่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์ และสิ่งมีชีวิต รวมถึงเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโลกเดือด มีหลากคนสงสัยว่าเมื่อโลกร้อนและรวน :ภาคส่วนใดของไทยปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุด? แต่ที่แน่ๆเกษตรกร ผู้มีรายได้น้อย คนในเมืองเสี่ยงผลกระทบสูงสุดโดยมีรายงาน NC4 พบว่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมาจากภาคพลังงาน 69.06% ภาคเกษตรกรรม 15.69% ภาคกระบวนการอุตสาหกรรมและการใช้ผลิตภัณฑ์ 10.77% และภาคของเสีย 4.88%

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา23% ของพื้นที่ชายฝั่งเผชิญวิกฤตการถูกกัดเซาะและสูญเสียพื้นที่จากการถูกกัดเซาะ 1-5 เมตรต่อปี ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจสูงถึง 6,000 ล้านบาทในด้านเกษตรกรรม โลกร้อนกระทบการเพาะปลูกโดยตรงเพราะความร้อนและปริมาณน้ำฝนที่ผันผวนทำให้ดินในการเพาะปลูกพืชสมบูรณ์น้อยลง และน้ำไม่เพียงพอต่อการทำเกษตรกรรม โดยระหว่างปี พ.ศ. 2554-2588 ผลกระทบสะสมต่อภาคเกษตรสามารถสร้างความเสียหายรวมเป็นมูลค่ารวมสูง 17,912 ถึง 83,826 ล้านบาทต่อปี

โลกร้อนกระทบต่อทุกภาคส่วนและต่อทุกคน แต่ส่งผลกระทบต่อคนแต่ละกลุ่มไม่เท่ากัน โดยเฉพาะคนที่ทำงานในภาคส่วนที่มีความอ่อนไหวสูงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและไม่มีศักยภาพการรับมือต่อผลกระทบได้ดีนักจะได้รับผลกระทบสูงกว่าคนกลุ่มอื่น เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย ชุมชนในพื้นที่เสี่ยงภัยธรรมชาติ และกลุ่มธุรกิจที่จำเป็นต้องพึ่งพาสภาพอากาศและทรัพยากรธรรมชาติในการหาเลี้ยงชีพอย่างภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในส่วนที่ดำเนินการโดยผู้ประกอบการรายย่อย หรือในภาคเกษตรกรรม ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นภาคส่วนที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 15.69% แต่ก็มีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสูงเนื่องจากการประกอบอาชีพขึ้นอยู่กับสภาพอากาศโดยตรง

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ เราจะถือว่าคุณรับได้กับเรื่องนี้ แต่คุณสามารถเลือกไม่รับได้หากต้องการ ยอมรับ อ่านเพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy