6 ธันวาคม 2568 ส่องเมืองยุคใหม่ทั่วโลก “อยู่ร่วมกับน้ำ” ด้วยนวัตกรรมและผังเมืองอัจฉริยะ

เมื่อโลกกำลังเผชิญสภาพภูมิอากาศสุดขั้วที่รุนแรงขึ้นทุกปี น้ำท่วม พายุ และระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นได้กลายเป็นความปกติใหม่ซึ่งท้าทายการพัฒนาเมืองแบบเดิม เมืองยุคศตวรรษที่ 21 จึงต้องเปลี่ยนแนวคิดจากการ “เอาชนะน้ำ” ไปสู่การ “อยู่ร่วมกับน้ำ” โดยผสานองค์ความรู้ด้านวิศวกรรม การวางผังเมืองเชิงนิเวศ และเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่าง AI, IoT, เซนเซอร์อัจฉริยะ และระบบ Digital Twin เพื่อสร้างเมืองที่ปลอดภัย ยืดหยุ่น และฟื้นตัวได้เร็วเมื่อต้องเผชิญภัยพิบัติ การจัดการน้ำแบบนี้เกิดขึ้นแล้วในหลายเมืองทั่วโลกและพิสูจน์ให้เห็นว่าการอยู่กับน้ำไม่ใช่แค่แนวคิด แต่คือยุทธศาสตร์เมืองที่สร้างผลลัพธ์ได้จริง

          โพสต์ทูเดย์ชวนสำรวจเมืองที่สามารถอยู่ร่วมกับน้ำทั่วโลกโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมผ่านโครงการอภิมหาโปรเจ็กต์ที่ทำให้มนุษย์อยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน ในยุคที่มนุษย์ไม่สามารถเอาชนะธรรมชาติได้อีก เริ่มจากหนึ่งในกรณีศึกษาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ทั่วโลกต่างก้มหัวยอมรับ คือ เนเธอร์แลนด์ ประเทศที่ถูกยกย่องว่าเชี่ยวชาญด้านการควบคุมน้ำที่สุดในโลก หลังจากพายุ North Sea Flood ในปี 1953 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,800 คน รัฐบาลได้ริเริ่มโครงการ Delta Works” ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในโครงการป้องกันน้ำท่วมที่ยิ่งใหญ่และซับซ้อนที่สุดในประวัติศาสตร์

วิศวกรได้สร้างโครงสร้าง 13 ส่วน ประกอบด้วยเขื่อนขนาดมหึมา ประตูกั้นน้ำแบบเคลื่อนย้ายได้ และระบบเบี่ยงน้ำตลอดชายฝั่ง เพื่อปกป้องพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นและบางส่วนต่ำกว่าระดับน้ำทะเลหลายเมตร โครงสร้างที่โดดเด่น ได้แก่ Maeslantkering ประตูกั้นน้ำยักษ์ที่มีแขนเหล็กขนาดเท่าหอไอเฟล ใช้ระบบควบคุมอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI ในการตัดสินใจปิดเมื่อระดับน้ำทะเลสูงจนถึงจุดเสี่ยง

อีกหนึ่งตัวอย่างคือ Oosterscheldekering ประตูกั้นน้ำที่สามารถเปิด–ปิดเพื่อรักษาระบบนิเวศชายฝั่ง ซึ่งพิสูจน์ว่าโครงสร้างพื้นฐานเพื่อความปลอดภัยสามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างสมดุล เทคโนโลยีสำคัญของ Delta..Works..ครอบคลุมเซนเซอร์ตรวจวัดคลื่น ลม ระดับน้ำ ระบบ SCADA
ที่ควบคุมประตูแบบเรียลไทม์ และ AI พยากรณ์พายุล่วงหน้า ซึ่งทำให้ประเทศสามารถคาดการณ์สถานการณ์และตัดสินใจได้แม่นยำภายในเวลาเสี้ยววินาที นอกจากโครงสร้างระดับชาติ เนเธอร์แลนด์ยังออกแบบเมืองที่อยู่กับน้ำได้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะ Rotterdam ที่พัฒนาแนวคิด water sensitive city” ให้พื้นที่สาธารณะเป็นส่วนหนึ่งของระบบจัดการน้ำ เช่น Water Squares หรือ Water Plaza  ที่เก็บน้ำฝนในพื้นที่สาธารณะ ที่ปกติเป็นสนามบาสและลานกิจกรรม แต่เมื่อฝนตกหนักก็จะกลายเป็นอ่างเก็บน้ำชั่วคราวได้หลายล้านลิตร และยังมีโปรแกรม Room for the River ปรับพื้นที่ริมแม่น้ำให้มีที่ว่างรับน้ำแทนการยกระดับคันกั้นอย่างเดียว แนวคิดคือทำให้ระบบเก็บ/หน่วงน้ำเป็นองค์ประกอบของเมือง ไม่ใช่ซ่อนใต้ดินอย่างเดียว

ที่มา : www.posttoday.com (https://www.posttoday.com/smart-city/734157)

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ เราจะถือว่าคุณรับได้กับเรื่องนี้ แต่คุณสามารถเลือกไม่รับได้หากต้องการ ยอมรับ อ่านเพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy