ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/foreign/2212232

นายอาร์.เค. ซิงห์ รัฐมนตรีพลังงานของอินเดียระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ประเทศอินเดียจะต้องเผชิญกับปัญหาพลังงานในช่วงหลายเดือนข้างหน้า เนื่องด้วยปัญหาขาดแคลนถ่านหินและความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมากในช่วงหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตามปกติแล้ว ความต้องการใช้พลังงานมักจะลดลงในช่วงครึ่งหลังของเดือน ต.ค. เมื่อสภาพอากาศเริ่มเย็นลง แต่คราวนี้กลับพบว่า ความต้องการใช้ไฟฟ้ากลับเพิ่มสูงขึ้นมากหลังจากการระบาดของโควิด-19 โดยมีผู้ใช้งานเพิ่มมาอีกราว 28.2 ล้านราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชนชั้นกลางระดับล่างและคนยากจน ซึ่งมีกำลังพอที่จะการซื้อหาพัดลม หลอดไฟ และชุดโทรทัศน์ โดยจนถึงในช่วงสิ้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินมีพลังงานเฉลี่ยเหลือพอใช้งานเพียงแค่ 4 วัน ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในรอบหลายปี ในจำนวนนี้กว่าครึ่งหนึ่งของโรงงานผลิตไฟฟ้ากำลังเตือนภัยว่าจะเกิดเหตุไฟฟ้าดับ ซึ่งรัฐบาลอินเดียกำลังเร่งหาทางนำโรงไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง เพื่อหาทางแก้ปัญหา พลังงานถ่านหินนับเป็นพลังงานหลักถึงเกือบร้อยละ 70 ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดในประเทศอินเดีย ขณะที่อีก 3 ใน 4 ของเชื้อเพลิงจากฟอสซิลได้มาจากการทำเหมืองในประเทศ แต่ที่ผ่านมาประเทสอินเดียเผชิญกับเหตุฤดูมรสุม ทำให้เกิดน้ำท่วมเหมือง และทำให้การขนส่งต้องหยุดชะงัก เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาถ่านหินสูงขึ้นมาก จนเกิดวิกฤติพลังงาน

ทั้งนี้ ความเห็นของรัฐมนตรีพลังงานอินเดียมีขึ้นท่ามกลางวิกฤติพลังงานทั้งในจีนและยุโรป ที่ทำให้ห่วงโซ่อุปทานเกิดภาวะชะงักงัน จนราคาเชื้อเพลิงพลังงานพุ่งสูงขึ้นไปทั่วโลกในเวลานี้