30 ธันวาคม 2568 ‘ขยะพลาสติก’ ล้นโลก กระทบสุขภาพ-สิ่งแวดล้อม-เศรษฐกิจ รีไซเคิลไม่พอ ต้องลดผลิตพลาสติกใหม่
“พลาสติก” เคยถูกยกย่องว่าเป็นวัสดุแห่งยุค ด้วยคุณสมบัติราคาถูก น้ำหนักเบา ทนทาน และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย แต่ในตอนนี้กลับกลายเป็นภัยร้ายก่อปัญหาสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และระบบเศรษฐกิจโลกอย่างน่าสะพรึงกลัว
ตามรายงานฉบับล่าสุดจาก The Pew Charitable Trusts ภายใต้ชื่อ “Breaking the Plastic Wave 2025” ส่งสัญญาณเตือนภัยที่รุนแรงกว่าครั้งใด ๆ เกี่ยวกับวิกฤตการณ์มลพิษพลาสติกที่กำลังถาโถมเข้าใส่ทุกองคาพยพของโลก หากเรายังคงดำเนินกิจกรรมในรูปแบบเดิมโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบอย่างเร่งด่วน มลพิษพลาสติกที่รั่วไหลสู่สิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นในดิน น้ำ หรืออากาศ ภายในปี 2040 จะพุ่งสูงขึ้นมากกว่าเท่าตัว หรือคิดเป็นปริมาณมหาศาลถึง 280 ล้านเมตริกตันต่อปี เปรียบเสมือนการเทขยะพลาสติกจากรถบรรทุกหนึ่งคันลงสู่สิ่งแวดล้อมในทุก ๆ วินาทีตลอดเวลา
มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากระบบพลาสติกสูงขึ้นจนน่าตกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึง “ต้นทุนแฝง” ที่ไม่ได้ถูกคิดรวมอยู่ในราคาวัสดุ รายงานระบุว่าผลกระทบทางสุขภาพที่เกิดจากสารเคมีในพลาสติกทั่วโลกเพียงอย่างเดียวมีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปีขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บและกำจัดขยะพลาสติกของรัฐบาลทั่วโลกมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นถึง 30% จนแตะระดับ 1.4 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2040 ความเสียหายเหล่านี้ยังไม่รวมถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลที่คาดว่ามีมูลค่าระหว่าง 500,000- 2.5 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี
รายงานยังชี้ให้เห็นว่า หากทั่วโลกตัดสินใจควบคุมพลาสติกล่าช้าเพียง 5 ปี จะส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายสาธารณะเพิ่มขึ้นถึง 27,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี และเพิ่มความเสี่ยงในการสูญเสียเงินลงทุนมหาศาลไปกับเทคโนโลยีที่ล้าสมัยอย่างการเผาขยะซึ่งขัดขวางการก้าวสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน มลพิษที่เกิดจากพลาสติกไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงแค่ตอนที่เป็นขยะเท่านั้น แต่สร้างความเสียหายในทุกขั้นตอนของวงจรชีวิต ตั้งแต่การสกัดฟอสซิล การผลิต การใช้งาน ไปจนถึงการกำจัด รายงานพบว่าพลาสติกมีสารเคมีที่ถูกเติมลงไปอย่างตั้งใจมากกว่า 16,000 ชนิด และมากกว่า 25% ของสารเหล่านี้ถูกพิสูจน์แล้วว่าอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์
สารกลุ่มที่น่ากังวลอย่างยิ่งคือ “สารรบกวนระบบต่อมไร้ท่อ” พบได้ทั่วไปในบรรจุภัณฑ์อาหาร ของเล่น และเครื่องสำอาง เป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาการมีบุตรยาก มะเร็ง โรคเบาหวาน และ
ความผิดปกติทางสติปัญญาในเด็ก หากเราไม่เริ่มควบคุม คาดการณ์ว่าในปี 2040 มนุษยชาติจะต้องสูญเสียปีแห่งการมีสุขภาพดีไปถึง 9.8 ล้านปี เนื่องมาจากมลพิษพลาสติกและการเผาขยะในที่โล่งซึ่งปล่อยฝุ่นละอองและสารพิษรุนแรงเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ นอกจากนี้ พลาสติกทำให้เกิด “วิกฤติสภาพภูมิอากาศ” เพราะกระบวนการผลิตพลาสติกปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากถึง 86% หากการผลิตพลาสติกใหม่ยังคงเติบโตต่อไปในอัตราปัจจุบัน ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจะเพิ่มขึ้นถึง 58% ภายในปี 2040 เทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซจากรถยนต์ที่ใช้น้ำมันถึง 1,000 ล้านคัน หากระบบพลาสติกโลกเป็นประเทศหนึ่ง ประเทศนี้จะกลายเป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากจีนและสหรัฐเท่านั้น ปริมาณการปล่อยก๊าซสะสมเหล่านี้จะกลืนกินงบประมาณคาร์บอนที่เหลืออยู่เกือบครึ่งหนึ่ง เพื่อรักษาอุณหภูมิโลกไม่ให้สูงเกิน 1.5 องศาเซลเซียสตามความตกลงปารีส ทำให้การแก้ไขปัญหาพลาสติกไม่ใช่เพียงปัญหาขยะ แต่คือหัวใจสำคัญของการหยุดยั้งความพินาศของสภาพภูมิอากาศ
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ (https://www.bangkokbiznews.com/sustainability/environment/1213923)