30 กรกฎาคม 2568 รองนายกฯ ประเสริฐ นั่งหัวโต๊ะประชุม กก.วล. ครั้งที่ 3 ขับเคลื่อนแผนบังคับใช้มาตรฐาน “ระบายมลพิษทางอากาศ” จากรถยนต์ดีเชลใหม่ยูโร 6 และรถจักรยานยนต์ใหม่ (มาตรฐานยูโร 5) มุ่งลดผลกระทบต่อสุขภาพในระยะสั้นและระยะยาว
วันนี้ (30 กรกฎาคม 2568) เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) ครั้งที่ 3/2568 โดยมีผู้บริหารจากกระทรวงทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ทรงคุณวุฒิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
นายประเสริฐฯ กล่าวว่า ขอให้หน่วยงานที่รับผิดชอบรับพิจารณา (1) เรื่องการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ทุกหน่วยงานที่กำกับโครงการ จะต้องมีแผนการดำเนินงานที่เร่งรัด รวดเร็วให้ทันต่อการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน (2) ปัญหาฝุ่นหรือมลพิษจากยานพาหนะ ทั้งฝุ่น กลิ่นต่าง ๆ และควันรถ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะสั้นและระยะยาว (3) การเตรียมการลดสารพิษบนท้องถนน ไม่ว่าจะเป็นการปรับใช้มาตรฐานยูโรใหม่ ๆ ที่มีความเข้มข้น หรือการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ เพื่อรองรับกับมาตรฐานทางกฎหมายระหว่างประเทศด้านมลพิษจากด้านต่าง ๆ ทั้งด้านพลาสติก ด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเล นอกจากนี้ ให้กรมควบคุมมลพิษเร่งดำเนินมาตรการรองรับฝุ่นที่จะมาในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ด้วย โดยที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่น เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2578 ที่ผ่านมา จึงขอให้ทุกหน่วยงานเตรียมการจัดทำมาตรการ และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะจังหวัดในพื้นที่ และส่วนกลางเร่งทำมาตรการโดยเร็ว ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบเรื่องสำคัญ ดังนี้
- เห็นชอบแผนการบังคับใช้มาตรฐานการระบายมลพิษทางอากาศจากรถยนต์ดีเซลใหม่ยูโร 6 ประกอบด้วย 1) รถยนต์
ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาดเล็ก บังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2572 และ 2) รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาดใหญ่
จะพิจารณาให้มีผลบังคับใช้ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 2 ปี แต่ไม่เกินวันที่ 1 มกราคม 2575 - เห็นชอบการปรับปรุงมาตรฐานการระบายมลพิษทางอากาศจากรถจักรยานยนต์ใหม่ (มาตรฐานยูโร 5) โดยให้ประกาศบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2572 เป็นต้นไป
- เห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านคมนาคม 6 โครงการ ได้แก่
1) ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายวงแหวนรอบนอก กทม. ด้านตะวันตก (บางขุนเทียน – บางปะอิน)
2) สะพานข้ามแม่น้ำแม่กลองบนทางหลวงหมายเลข 4 (สะพานสิริลักขณ์) จ.ราชบุรี
3) ทางหลวงหมายเลข 4 ตอน เขาหลัก – ลำแก่น จ.พังงา
4) ทางหลวงหมายเลข 4 ระนอง – อ.ตะกั่วป่า ตอน บ.นายทุย – บ.บางวัน จ.ระนอง – พังงา
5) ทางแยกต่างระดับแยกเขาไร่ยา บนทางหลวงหมายเลข 3 จ.จันทบุรี
6 ) ทางหลวง 4 ช่องจราจร บนทางหลวงหมายเลข 323 อ.ทองผาภูมิ – อ.สังขละบุรี ตอน บ.ท่าขนุน – เจดีย์สามองค์
จ.กาญจนบุรี
ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาสภาพการจราจรติดขัดให้สามารถเดินทางได้สะดวกและรวดเร็วมากขึ้น รวมทั้งยกระดับความปลอดภัยในการสัญจรและส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจการขนส่งสินค้าให้มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น
ที่มา : รัฐบาลไทย (https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/99094)