28 ตุลาคม 2568 ซินเจนทายกระดับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไทยด้วยนวัตกรรมระดับโลก “เทคโนโลยีชีวภาพ (Biological)” สู่อนาคตเกษตรยั่งยืน
นวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพพลิกโฉม “ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไทย” จากพืชอาหารสัตว์ทั่วไป ให้กลายเป็น “พืช เศรษฐกิจแห่งอนาคต” ที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจ เกษตรกรรม พลังงาน สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงทางอาหารของประเทศ โดยเฉพาะในยุคที่การเกษตรต้องเผชิญกับความท้าทายจากสภาพอากาศที่แปรปรวน การเสื่อมโทรมของดิน และแรงกดดันด้านสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีชีวภาพจึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการฟื้นฟูเกษตร และสร้างความยั่งยืนให้กับทั้งระบบการผลิตอาหาร
นวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพพลิกโฉม “ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไทย” จากพืชอาหารสัตว์ทั่วไป ให้กลายเป็น “พืช เศรษฐกิจแห่งอนาคต” ที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจ เกษตรกรรม พลังงาน สุขภาพ สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงทางอาหารของประเทศ โดยเฉพาะในยุคที่การเกษตรต้องเผชิญกับความท้าทายจากสภาพอากาศที่แปรปรวน การเสื่อมโทรมของดิน และแรงกดดันด้านสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีชีวภาพจึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการฟื้นฟูเกษตร และสร้างความยั่งยืนให้กับทั้งระบบการผลิตอาหาร
การเกษตรสมัยใหม่จึงต้องปรับตัว โดยนำนวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ (Biological) เข้ามามีบทบาทสำคัญ ทั้งในด้านการบำรุงดิน การกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช และการควบคุมโรค แมลงและวัชพืชอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การใช้สารชีวภาพผสมผสานกับการใช้สารเคมีไม่เพียงช่วยลดต้นทุนในระยะยาว แต่ยังฟื้นฟูความสมดุลของระบบนิเวศในไร่ ทำให้ดินมีชีวิตมากขึ้น พืชแข็งแรงขึ้น และผลผลิตมีคุณภาพที่สม่ำเสมอ โดยใช้แนวทางการจัดการพืชแบบบูรณาการ (ICM) ที่ผสานเทคโนโลยีชีวภาพ ด้วยการใช้จุลินทรีย์หรือสารชีวภาพร่วมกับวิธีการเกษตรที่ยั่งยืน เพื่อควบคุมศัตรูพืชและส่งเสริมสุขภาพดิน การผสมผสานนี้ช่วยเพิ่มผลผลิตอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรักษาสมดุลสิ่งแวดล้อมและลดผลกระทบต่อสุขภาพของผู้บริโภคและเกษตรกร
ในปัจจุบัน เกษตรกรไทยเริ่มหันมาใช้เทคโนโลยีชีวภาพเพื่อเสริมประสิทธิภาพการปลูกข้าวโพดกันมากขึ้น ซินเจนทาในฐานะผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเกษตรระดับโลก จึงได้พัฒนาโซลูชันชีวภาพที่ตอบโจทย์เกษตรกรยุคใหม่อย่างครบวงจร ทั้งการใช้จุลินทรีย์ชีวภาพช่วยปรับปรุงดินให้ร่วนซุยและอุดมสมบูรณ์มากขึ้น การใช้สารควบคุมทางชีวภาพ (Biocontrols) เพื่อจัดการแมลงศัตรูพืชและวัชพืชโดยไม่ทำลายดิน รวมถึงการใช้สารกระตุ้นทางชีวภาพ (Biostimulants) เพื่อช่วยให้ข้าวโพดมีความทนทานต่อสภาพแล้งหรือฝนทิ้งช่วง เช่น ผลิตภัณฑ์ควอนติส ที่ช่วยลดอุณหภูมิพืช ป้องกันและกำจัดศัตรูพืช และเพิ่มปริมาณให้ผลผลิตมีคุณภาพ เพราะข้าวโพดที่แข็งแรงย่อมให้ผลผลิตที่มากกว่าและมีคุณภาพดีขึ้น รวมไปถึงเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ธาตุอาหาร (Nutrient Use Efficiency – NUE) ที่ช่วยให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น
ซินเจนทายังมีเทคโนโลยีลิขสิทธิ์เฉพาะ “GEA POWER” ที่ผสานพลังของสารสกัดจากพืชธรรมชาติ เพื่อเพิ่มความสามารถในการทนแล้งและการดูดซึมสารอาหารของข้าวโพด ตัวอย่างจากการทดลองในบราซิลพบว่า ข้าวโพดที่ใช้สารกระตุ้นทางชีวภาพสามารถเพิ่มผลผลิตได้ 5-10% โดยไม่ต้องรดน้ำเพิ่มเติม ส่วนในสหรัฐอเมริกา การใช้ฟีโรโมนจากสารชีวภาพเพื่อลดการผสมพันธุ์ของแมลงศัตรูพืชช่วยลดความเสียหายได้กว่าครึ่งหนึ่ง ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิดของเกษตรฟื้นฟู (Regenerative..Agriculture)..ที่เน้นให้ผลผลิตและสิ่งแวดล้อมเติบโตไปพร้อมกัน
ที่มา : www.khaosod.co.th (https://www.khaosod.co.th/technologychaoban/techno-news/article_320977)