27 ธันวาคม 2563 สุดเหี้ยม! นักล่าสเปน สังหารหมู่สัตว์ป่า 540 ตัว ใน 2 วัน ที่โปรตุเกส

ที่มา : https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9630000132087

อาชญากรรมด้านสิ่งแวดล้อมครั้งนี้ สร้างความสะเทือนใจแก่ชาวโปรตุเกส โดยเฉพาะคนอนุรักษ์สัตว์ป่าทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17-18 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยลานสังหารหมู่ อยู่ที่ฟาร์มแห่งหนึ่งในอาแซมบูจา บนเนื้อที่ประมาณ 6,800 ไร่ (ห่างจากลิสบอน 40 กม.)

เหยื่อสังหารอย่างโหดเหี้ยม เป็นสัตว์ป่า ส่วนมาก คือกวาง และหมูป่า พวกเขาต้องจ่ายเงินประมาณ 3 แสนบาทสำหรับการเข้าร่วมการขี่ม้าล่าสัตว์ ภายในขอบเขตที่มีรั้วล้อมรอบป้องกันสัตว์หนี สัตว์ป่าถูกต้อนเข้ามุมและถูกสังหารโดยการยิง หลังจากนั้นพวกเขาถ่ายภาพและแชร์ในโซเชียล จนนำไปสู่การประณามว่าคนพวกนี้ก่ออาชญากรรมด้านสิ่งแวดล้อม

จัว เปโดร มาตอส เฟอร์นานเดส (Joao Pedro Matos Fernandez) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของโปรตุเกสเรียกการยิงสัตว์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกวางและหมูป่า ว่าเป็นการกระทำที่เลวทรามและยอมรับไม่ได้ ในขณะที่ Silvino Lucio นายกเทศมนตรีเมือง Azambuja ระบุเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยู่ห่างจากลิสบอนประมาณ 40 กิโลเมตร และเรียกสิ่งที่เกิดขึ้นว่า “การสังหารหมู่” และ “อาชญากรรมด้านสิ่งแวดล้อม”

พรรคการเมืองหน่วยงานท้องถิ่นและสมาคมด้านสิ่งแวดล้อมทั่วโปรตุเกสรู้สึกไม่พอใจกับการเดินทางล่าสัตว์ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 17 และ 18 ธันวาคมและมีการเปิดตัวการสอบสวนอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเจ้าของดินแดน Torre de Bela ผู้จัดงานและนักล่าชาวสเปน ในระหว่างนี้ถูกระงับใบอนุญาตล่าสัตว์ในพื้นที่

สถานการณ์ดังกล่าวถูกค้นพบหลังจากนักล่าบางคนแชร์ภาพถ่ายของสัตว์ที่พวกเขาฆ่าบนโซเชียลมีเดียเรียกมันว่า “บันทึก” เนื่องจากจำนวนสัตว์ นักล่ามาจากสังคมการล่าสัตว์ Monteros de la Cabra ใน Badajoz

สถาบันเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและป่าไม้ของโปรตุเกส กล่าวว่าพวกเขาไม่เคยมีความรู้มาก่อนเกี่ยวกับการล่าสัตว์ในพื้นที่ที่ปิดไม่ให้สัตว์ไปไหน จำนวนสัตว์ที่อนุญาตให้ยิงได้โดยปกติจะต้องได้รับอนุญาตขั้นสูง ตามที่สมาคมล่าสัตว์อื่น ๆ ระบุว่าการฆ่าสัตว์ 540 ตัว ภายในช่วง 2 วัน “ ไม่ใช่การล่าสัตว์ แต่เป็นการฆ่าสัตว์ที่ถูกกักขังจำนวนมหาศาล” เนลสันคาดาเวซจาก Club Monteria del Norte กล่าวในแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนระดับชาติ