25 ธันวาคม 2566 TEI เปิดมุมมองสถานการณ์สิ่งแวดล้อมปี 2566 พร้อมชวนคนไทย ร่วมมือสร้างโลกสีเขียวก้าวสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

การรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างโลกสีเขียว

ที่มา : https://www.thaipr.net/life/3426155#google_vignette

           เรากำลังจะบอกลาปี 2566 ปีกระต่าย และเดินทางก้าวเข้าสู่ปีมะโรง แต่สิ่งที่จะวนเวียนอยู่กับเราในทุก ๆ ปี ก็คือเรื่องของปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของเราทุกคน สถาบันสิ่งแวดล้อมไทย (TEI)..ในฐานะองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อม โดย ดร.วิจารย์ สิมาฉายา ผู้อำนวยการสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย
ได้เปิดประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมของโลกและของประเทศไทย ดังนี้  ภาพรวมสิ่งแวดล้อมโลกที่ทั่วโลกให้ความสนใจนั่นก็คือ “ประเด็นปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ซึ่งเป็นผลมาจากค่าเฉลี่ยอุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 1.2 องศาเซลเซียส เซลเซียสเทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรม ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล ภัยพิบัติทางธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศแบบสุดขั้ว หนาวมาก ร้อนมาก วิกฤตคลื่นความร้อนและภัยพิบัติรุนแรงต่างๆ รวมถึงการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพที่เกิดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากการสูญเสียพื้นที่ป่าที่ถูกเปลี่ยนเป็นพื้นที่เกษตรกรรมในหลายประเทศ การขยายตัวของเมืองและชุมชน ปัญหาขยะพลาสติกในแหล่งน้ำและในทะเลที่พบมีการปนเปื้อนไมโครพลาสติกในสัตว์น้ำ และเนื้อเยื่อของมนุษย์สูงขึ้นจนองค์การสหประชาชาติให้ความสำคัญหยิบยกขึ้นมาเป็นปัญหาใหม่ของโลกที่จะต้องมีข้อตกลงร่วมกันในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ขณะที่ภาพรวมของสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมไทยในปี 2566 “ประเด็นปัญหามลพิษและการใช้พลังงานจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ” หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19  อันเป็นผลจากการขยายตัวของการบริโภคในภาคเอกชน  กิจกรรมในเมืองหลักและแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงการเดินทางที่เข้าสู่ภาวะปกติ นำมาซึ่งปัญหาการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่เพิ่มขึ้น
ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของปัญหามลพิษและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แม้การใช้พลังงานได้ขยายตัวช้าลงจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มสูงขึ้นและมาตรการส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าก็ยังไม่บังเกิดผลมากนัก ในปี 2566 “ประเด็นความแปรปรวนของสภาพอากาศ” เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ในด้านอุณหภูมิ ปริมาณฝน ความชื้น และระดับน้ำทะเล อีกทั้งปรากฎการณ์เอลนีโญที่เริ่มรุนแรงมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา มีผลให้อุณหภูมิโลกพุ่งสูงขึ้นและกลายเป็นปีที่ร้อนและแห้งแล้งที่สุดในรอบหลายปี  ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับปริมาณน้ำฝนและปริมาณน้ำท่า จึงส่งผลกระทบต่อการใช้น้ำในภาคส่วนต่าง ๆ และกระทบต่อกลุ่มที่เสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาทิ เกษตรกร ชุมชนชายฝั่ง ผู้มีรายได้น้อย เป็นต้น รวมทั้งผลกระทบต่อปัญหามลพิษทางอากาศที่รุนแรง เช่น PM2.5 เป็นต้น สถานการณ์ข้างต้น ล้วนเป็นภัยคุกคามต่อความเป็นอยู่และอาชีพของคนไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงเป็นการคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพ ขณะเดียวกันก็มี “กระแสรักษ์โลก” ทั้งในด้านการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืนเพิ่มขึ้น ภาคธุรกิจขนาดใหญ่มีความตื่นตัวต่อเป้าหมายสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์หรือ Net Zero กันอย่างคึกคัก มีการขยายตัวของสินค้าที่มีฉลากสิ่งแวดล้อม การปรับเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้หรือรีไซเคิลได้ ฯลฯ อย่างไรก็ตามควรจะดำเนินการส่งเสริมการเรียนรู้ และสร้างกระแสบริโภคที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการกำหนดนโยบายที่เอื้ออำนวยต่อการจัดการสิ่งแวดล้อมของภาคส่วนต่างๆ

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ เราจะถือว่าคุณรับได้กับเรื่องนี้ แต่คุณสามารถเลือกไม่รับได้หากต้องการ ยอมรับ อ่านเพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy
slot online situs slot gacor hari ini daftar istanaslot https://buletin303.com/ https://134.209.107.98:777/ https://188.166.233.138/

https://gangster4d.netlify.app/

gangster4d slot

gangster4d

Skip to content