24 มิถุนายน 2563 ร้องบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนซ้ำซ้อนกว่า ๕๓ ไร่

ที่มา:
https://siamrath.co.th/n/164936
นายอนุวัตร นาคฤทธิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลถ้ำใหญ่ พร้อมชาวบ้าน หมู่ ๖ ชุมชนบ้านวังไทร ต. ถ้ำใหญ่ อ. ทุ่งสง จ. นครศรีธรรมราช เข้าแจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเพื่อร่วมเข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าบ้านวังไทร หมู่ที่ ๖ ต. ถ้ำใหญ่ อ. ทุ่งสง จำนวน ๕๓ -๓ – ๙๒ ไร่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ระหว่างพื้นที่ป่าช่องกระโสม ป่าวังญวน ป่าควนประ ป่าช่องเขา ป่าไร่ใหญ่ ป่าควนขี้แรด ป่าควนนกจาบ และป่าปากอ่าว ซึ่งเป็นพื้นที่ถูกบุกรุกแผ้วถางที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดดำเนินคดีไว้แล้วตั้งแต่เดือน ก.ย. ๖๒ แต่ชาวบ้านแจ้งว่า กลุ่มบุคคลเข้ามารื้อถอนป้ายการตรวจยึดออกแล้วเข้าซ่อมขนำเฝ้าพื้นที่ รวมทั้งเตรียมแผ้วถางใช้ประโยชน์ในพื้นที่ทั้งที่อยู่ในระหว่างดำเนินคดี เดิมทีที่ดินแปลงนี้อยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวน และอยู่ติดกับพื้นที่ป่าต้นน้ำวังใหญ่ (ป่าชุมชนบ้านวังไทร) โดยมีอดีตดาบตำรวจ สภ. ทุ่งสงครอบครองอยู่ และต่อมาดาบตำรวจคนดังกล่าวได้เสียชีวิตแล้ว และได้มีบุตรสาวเข้ามาดูแลที่ดินแปลงดังกล่าวแทน และโค่นต้นยางล้มลงนอกจากนั้นยังมีการโค่นต้นไม้ใหญ่จนเป็นที่มาของการร้องเรียนให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ จนกระทั่งเมื่อวันที่ ๑๐ ส.ค. ๖๒ มีทหาร และเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าไปตรวจสอบ แต่ก็ไม่มีการดำเนินคดีกับผู้ใดเนื่องจากไม่พบผู้ต้องหาในพื้นที่ ทำให้ชาวบ้านกังวลว่า พื้นที่แปลงนี้จะถูกครอบครองทั้งที่เป็นพื้นที่ป่า ต่อมาในเดือน ก.ย. ๖๓ นายจิรโรจน์ สำแดง อดีตนายอำเภอทุ่งสงในขณะนั้น ได้นำเจ้าหน้าที่อสและหน่วยป้องกันรักษาป่า ที่ นศ.๔ ร่อนพิบูลย์ และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๑๒ นครศรีธรรมราชเข้าไปยึดพื้นที่ดังกล่าว และดำเนินคดี กับเจ้าของที่และบุคคลที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ ๒๖ ก.ย. ๖๒ ส่งดำเนินคดีที่ สภ. ทุ่งสง และระหว่างนี้ยังเป็นคดีความกัน จนกระทั่งเมื่อประมาณต้นเดือน มิ.ย. ๖๓ มีนายทุนรายใหญ่นำลูกน้องซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเข้ามาบุกรุกที่ดินแปลงดังกล่าว และมีการถอดป้ายของเจ้าหน้าที่ที่ได้ติดประกาศไว้ว่า พื้นที่บริเวณนี้ได้ถูกตรวจยึดดำเนินคดีแล้ว โดยเป็นป้ายติดประกาศของหน่วยป้องกันป่าที่ นศ. ๔ ร่อนพิบูลย์ และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๑๒ นครศรีธรรมราช สังกัดกรมป่าไม้ หลังจากนั้นเมื่อชาวบ้านเห็นเหตุการณ์ได้เข้าร้องเรียนอีกครั้งเนื่องจากเกรงว่า พื้นที่นี้จะถูกยึดครองจากนายทุนภายนอก โดยขณะนี้นายอนุวัตร ได้ประสานกับสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ ๑๒ นครศรีธรรมราชเพื่อดำเนินการแล้ว