23 กุมภาพันธ์ 2567 ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมประกาศจุดยืนเทเลคอม เทคคอมปานีไทย ปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อโลกที่ยั่งยืนไปด้วยกัน

ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมประกาศจุดยืนเทเลคอม เทคคอมปานีไทย ปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อโลกที่ยั่งยืนไปด้วยกัน

ที่มา : Thaipr.net  (https://www.thaipr.net/business/3445798)

ร่วมแสดงพลังขับเคลื่อนในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมดูแลระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ  กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย นายจิรวัฒน์ ระติสุนทร (ที่ 5 จากซ้าย) รองเลขาธิการ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานเปิดการประชุมการเงินเพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ (Forum on Finance for Biodiversity – Fin4Bio) ที่สำนักงานฯ ได้ร่วมกับสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย สำนักงานเพื่อการพัฒนาแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส บริษัท Blue Renaissance และสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ณ C ASEAN พระราม 4 ในโอกาสนี้ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น โดย ดร.ปิยาภรณ์ ภาสกานนท์ (ที่ 2 จากซ้าย) หัวหน้าสายงานด้านการพัฒนาความยั่งยืนองค์กร หนึ่งในองค์กรสมาชิกผู้ก่อตั้งสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย ได้เข้าร่วมประชุมพร้อมยืนยันเจตนารมณ์ของทรู ในฐานะเทคคอมปานีไทยที่ให้ความสำคัญและนำปัจจัยเรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ มาใช้ในการวางแผนติดตั้งเสาสัญญาณทรู-ดีแทคทุกพื้นที่ทั่วไทย เพื่อบรรลุเป้าหมายที่จะไม่ก่อให้เกิดความสูญเสียคุณค่าด้านความหลากหลายทางชีวภาพสุทธิ และไม่ก่อให้เกิดการสูญเสียพื้นที่ป่าไม้สุทธิ ภายในปี 2573 สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ หรือ SDGs “เป้าหมายที่ 15 ปกป้อง ฟื้นฟู และส่งเสริมการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน”

ดร.ปิยาภรณ์ ภาสกานนท์ หัวหน้าสายงานด้านความยั่งยืนองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า “การติดตั้งเสาสัญญาณที่คำนึงถึงความหลากหลายทางชีวภาพและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของทรู คอร์ปอเรชั่น มีกระบวนการครอบคลุมตั้งแต่ 1.คัดเลือกพื้นที่ตั้งเสาสัญญาณ ประเมินความเสี่ยงและผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพและสิ่งมีชีวิตนานาพันธุ์ในระบบนิเวศรอบพื้นที่เสาสัญญาณ 2.ประเมินและจัดลำดับความสำคัญของพื้นที่เสี่ยง โดยนำไปประเมินเชิงลึกผ่านโปรแกรมมาตรฐานระดับโลก Biodiversity and Ecosystem Services Trends and Conditions Assessment Tool (BESTCAT) เพื่อทำการคัดกรองพื้นที่อ่อนไหว 3.ดำเนินตามแผนแก้ไข ป้องกัน เพื่อลดผลกระทบ
โดยยึดหลักบรรเทาผลกระทบตามลำดับชั้น ตั้งแต่ หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจส่งผลกระทบ ลดผลกระทบที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ฟื้นฟูสภาพพื้นที่ด้วยการปลูกพรรณไม้ท้องถิ่น และชดเชยด้วยการปลูกต้นไม้ นอกพื้นที่โครงการ และ 4. สร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชนโดยรอบ เพื่อร่วมอนุรักษ์ ฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ อาทิ โครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์เฝ้าระวังช้างป่าและเตือนภัยล่วงหน้า โครงการฟื้นฟูและอนุรักษ์นกกระเรียนพันธุ์ไทย นอกจากนี้ ยังส่งเสริมการบันทึกข้อมูลการปลูกต้นไม้ในสังคมยุคดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชัน We Grow เพื่อช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศ และสร้างแหล่งที่อยู่อันอุดมสมบูรณ์ให้แก่สิ่งมีชีวิต โดยปัจจุบันมียอดการปลูกต้นไม้กว่า 6.2 ล้านต้นทั่วประเทศไทย และสามารถคำนวณปริมาณการกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้ที่ปลูกถึง 332,132 ตันคาร์บอนไดออกไซต์”

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ เราจะถือว่าคุณรับได้กับเรื่องนี้ แต่คุณสามารถเลือกไม่รับได้หากต้องการ ยอมรับ อ่านเพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy