23 เมษายน 2563 พายุถล่มนครพนม ผวาอาถรรพ์พระธาตุเก่าแก่กว่า ๒,๐๐๐ ปี ยอดหัก

ที่มา: https://www.sanook.com/news/8093666/
นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ นายอำเภอเมืองนครพนม พร้อมนายสัญญา จันทะโคตร นายก อบต. อาจสามารถ ประสานกำลังเจ้าหน้าที่ ตชด. ๒๓๖ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และผู้นำชุมชนท้องถิ่นลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย เร่งให้ความช่วยเหลือ หลังเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่ม บ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายเกือบ ๓๐ หลัง มีเสียหายหนักประมาณ ๔ – ๕ หลัง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจฟื้นฟูซ่อมแซม พร้อมแจ้งเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวัง โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำโขงถือว่ามีความเสี่ยง เนื่องจากช่วงนี้อากาศแปรปรวน ทำให้เกิดพายุฤดูร้อนบ่อยครั้ง นอกจากนี้ จากการตรวจสอบมีบ้านเรือนเสียหาย ยังพบว่ามียอดฉัตรพระธาตุสำราญ มีความสูงรวมยอดฉัตรประมาณ ๑๒ ม. เป็นอิฐเก่าแก่อายุกว่า ๒,๐๐๐ ปี ซึ่งได้รับผลกระทบจากพายุพัดยอดหักพังเสียหาย ซึ่งจะได้ประสานเจ้าหน้าที่จากสำนักศิลปากรที่ ๙ อุบลราชธานี มาตรวจสอบความเสียหายซ่อมแซมฟื้นฟูต่อไป ขณะเดียวกัน ชาวบ้านที่ทราบข่าวบางรายเริ่มหวั่นเกรง ว่าอาจจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นได้ หรืออาจมีอาถรรพ์บางอย่างเกิดขึ้น จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เข้ามาเร่งซ่อมแซมให้เหมือนเดิมโดยเร็ว
ทั้งนี้ จากประวัติความเป็นมาการสร้างพระธาตุสำราญ เมื่อ พ.ศ. ๘ พร้อมกับยุคก่อสร้างองค์พระธาตุพนม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขงบ้านสำราญหมู่ ๒ ต. อาจสามารถ อ. เมืองนครพนม จ.นครพนม โดยมีการขุดพบใบเสมาโบราณ จารึกอักษรขอม ระบุปีที่สร้างพร้อมกับคำสาปแช่งผู้ที่จะเข้ามาล่วงเกิน พระธาตุสำราญเดิมมีชื่อว่า พระธาตุทับเงา หรือ พระธาตุเงา ตามตำนานกล่าวไว้ว่า พระพุทธเจ้าเสด็จมายืนอยู่กลางแม่น้ำโขง แล้วเงาของพระองค์ทอดมาถึงบริเวณนั้น ชาวบ้านจึงสร้างพระธาตุทับเงาที่พระพุทธเจ้าทาบมา ภายหลังถูกปล่อยให้ทรุดโทรม ก่อนที่กรมศิลปากรจะเข้ามาบูรณะ และขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน