22 มกราคม 2563 เสนอผลวิจัยใหม่เกี่ยวการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่

ที่มา: https://www.thairath.co.th/news/foreign/1752753
นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ยอมรับว่าเหตุการณ์การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่หรือที่เรียกว่า K-Pg (Cretaceous-Paleogene) หรือยุคครีเตเชียส-พาลีโอจีน เมื่อ 66 ล้านปีที่แล้ว และกวาดล้างไดโนเสาร์ไปจนสูญสิ้น เกิดขึ้นหลังจากดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนกับโลก แต่ก็มีนักวิจัยบางรายเชื่อว่าภูเขาไฟระเบิดมีส่วนในเหตุการณ์การสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ เนื่องจากมีข้อบ่งชี้ว่าในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง ภูเขาไฟปล่อยซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2) และคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จำนวนมาก ที่สามารถเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเกิดกรดในโลก
แต่งานวิจัยล่าสุดของผู้เชี่ยวชาญธรณีวิทยาและธรณีฟิสิกส์แห่งมหาวิทยาลัยเยล ในสหรัฐอเมริกา ได้โต้แย้งว่าผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการระเบิดของภูเขาไฟขนาดใหญ่ในประเทศอินเดียตรงที่ราบสูงเดกกัน (Deccan Traps) เกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ K-Pg ดังนั้นจึงไม่ได้มีส่วนทำให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ ทีมของเฉิงได้เน้นไปที่ช่วงเวลาของการปะทุของลาวามากกว่าการปล่อยก๊าซของภูเขาไฟ โดยใช้ซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลทางทะเลมาเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิโลก และไอโซโทปคาร์บอน ซึ่งไอโซโทปเป็นอะตอมที่มีจำนวนนิวตรอนสูงกว่า หรือต่ำกว่าปกติ ทีมวิจัยสรุปว่าการปล่อยก๊าซส่วนใหญ่เกิดขึ้นได้ดีก่อนที่ดาวเคราะห์น้อยจะพุ่งกระทบกับโลก นั่นหมายถึงว่าดาวเคราะห์น้อยเป็นตัวการเพียงหนึ่งเดียวที่เป็นสาเหตุของการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่.