22 พฤษภาคม 2563 ยังแล้งกระหน่ำ!น้ำยมพิจิตรแห้งผาก-นาข้าวนครสวรรค์ร้าง ชาวนาท่าตะโกเสี่ยงหว่านแห้งรออานิสงส์พายุอำพัน

ที่มา: https://mgronline.com/local/detail/9630000053291
แม้จะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน แต่แม่น้ำยมในพื้นที่ จ. พิจิตรยังคงแห้งขอดแทบทั้งสาย ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เกษตรลุ่มน้ำยมกว่า ๕๐,๐๐๐ ไร่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะแม่น้ำยม เป็นแม่น้ำสายเดียวที่ไม่มีจุดกักเก็บน้ำ ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมในฤดูน้ำหลาก ภัยแล้งรุนแรงในหน้าแล้งมาทุกปี นายธีระพงศ์ เพ็ชรพงษ์ นายก อบต. รังนก อ. สามง่าม จ. พิจิตรเปิดเผยว่า เดิมชาวบ้านในลุ่มน้ำยมเรียกร้องอยากให้รัฐบาลสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น แต่ติดปัญหาด้านมวลชนและสิ่งแวดล้อมจนล้มโครงการไป จากนั้นจึงมีการผลักดันก่อสร้างอาคารบังคับน้ำในแม่น้ำยมเป็นช่วงๆ แบบขั้นบันได เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตร จึงเกิดการก่อสร้างประตูระบายน้ำท่าแห ต. กำแพงดิน ขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้ลงมือดำเนินการก่อสร้างแล้วถัดไปคือ ฝายไฮดรอลิก ( Hydraulic ) แบบฐานพับได้กว้าง ๖๘ ม. สูง ๓.๖๐ ม. ที่กำลังก่อสร้างแทนฝายยางสามง่าม ต. รังนก ใช้งบประมาณ ๑๖๐ ล้านบาทเศษ ดำเนินการโดยกรมชลประทานสร้างเอง และได้ลงมือก่อสร้างเมื่อต้นเดือน พ.ค. ๖๓ ที่ผ่านมา คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ ๔ เดือนก็จะแล้วเสร็จทันฤดูน้ำหลากของปี ๖๓ สามารถกักเก็บน้ำได้ประมาณ ๑๖ ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนแม่น้ำยมตอนใต้เขต อ. โพธิ์ประทับช้างกำลังมีการก่อสร้างประตูระบายน้ำบ้านวังจิก และประตูระบายน้ำโพธิ์ประทับช้างอีก ๒ แห่งด้วย
นายนิวัตน์ธนา เพ็ชร์สุขุม ผอ. โครงการก่อสร้างสำนักงานชลประทานที่ ๓ จ. พิษณุโลก และนายอำนาจ อินทร์วงศ์แก้ว ผอ. โครงการชลประทานพิจิตรกล่าวระหว่างนำ ส.ส. พปชร. พิจิตร และตัวแทนคือ นายพรชัย อินทร์สุข เขต ๑ – นายภูดิท อินสุวรรณ์ เขต ๒ พร้อมตัวแทนของนายสุรชาติ ศรีบุศกร สส. พปชร. เขต ๓ ลงดูพื้นที่ก่อสร้างว่า ถ้าโครงการก่อสร้างฝาย และประตูระบายน้ำ รวมถึงฝายยางตอนท้ายน้ำอีก ๒ จุด ทั้งหมดสร้างเสร็จ จะทำให้แม่น้ำยมมีน้ำกักเก็บก่อนสิ้นฤดูฝนประมาณ ๕๐ ล้านลูกบาศก์เมตรเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภคและใช้ในพื้นที่การเกษตรลุ่มน้ำยมทั้งหมดไม่ต่ำกว่า ๕ หมื่นไร่ ส่วน จ. นครสวรรค์ที่อยู่ถัดจากพิจิตรลงไปนั้น ล่าสุดก็ต้องประกาศพื้นที่ภัยแล้ง ๖ อำเภอ ๒๖ ตำบล ๑๖๔ หมู่บ้าน มีพื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า ๑๔๐,๐๐๐ ไร่ ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ศูนย์ฝนหลวงภาคกลางนครสวรรค์บินสำรวจสภาพพื้นที่พบว่า แหล่งน้ำธรรมชาติ และแม่น้ำสายหลักต่างๆ แห้งหลายพื้นที่ นาข้าวจำนวนมากถูกปล่อยรกร้าง เนื่องจากยังไม่สามารถเริ่มฤดูกาลเพาะปลูกได้ ขณะที่ชาวนาท่าตะโกหลายรายก็ต้องทำนาแบบหว่านแห้งรออานิสงส์พายุอำพัน โดยส่วนใหญ่ต่างบอกว่า หากทำนาครั้งนี้ไม่มีฝนตกตามกรมอุตุประกาศ ชาวนาในพื้นที่จะประสบปัญหาการขาดทุนกันเป็นจำนวนมากแน่นอน นางบุญนาค สิทธิ ชาวนาพื้นที่หมู่ ๗ ต. วังมหากร อ. ท่าตะโก จ.นครสวรรค์บอกว่า ปกติช่วงนี้ทุกปีจะมีฝนตก และมีแหล่งน้ำตามธรรมชาติเหลือเพียงพอ แต่ในปีนี้มีฝนตกลงมาน้อยมาก แบบแทบไม่ตกเลย จึงจำเป็นต้องหว่านข้าวบนแปลงนาและไถกลบรอฝนที่จะมากับพายุอำพัน ซึ่งหวังว่าอาจจะมีฝนตกลงมาช่วยบรรเทาภาวะฝนแล้งและฝนทิ้งช่วงได้ แต่ถ้าไม่มีฝนตกลงมาภายใน ๑๕ วัน เมล็ดข้าวที่หว่านก็เสียหายการขาดทุนแน่ แต่ก็ต้องเสี่ยง