21 กรกฎาคม 2568 การเปลี่ยนแปลงสีเขียว การเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานระดับโลก
สมาคมธุรกิจหวิงห์ลองได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “การเข้าใกล้มาตรฐาน การพัฒนาอุตสาหกรรมหลักให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” เมื่อเร็ว ๆ นี้ การประชุมเชิงปฏิบัติการนี้ตอกย้ำว่าแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสู่ความยั่งยืนนั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องผสานรวมเข้ากับตลาดและห่วงโซ่อุปทานระดับโลกอย่างลึกซึ้งและกว้างขวาง
การพัฒนาอุตสาหกรรมหลักให้เป็นสีเขียว
ในบริบทของตลาดโลกที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าที่ยั่งยืนมากขึ้น การสร้างความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจึงไม่เพียงเป็นกระแสเท่านั้น แต่ยังเป็นเงื่อนไขในการรักษาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอีกด้วย
นายทราน วัน ดึ๊ก ประธานสมาคมธุรกิจ เบนเทร ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการของเบนิโก้ กล่าวว่า เบ็นเทร เป็นเมืองที่มีอุตสาหกรรมมะพร้าวที่พัฒนาแล้ว และเวียดนามเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศที่มีพื้นที่เพาะปลูกมะพร้าวมากที่สุดและมีผลผลิตมากเป็นอันดับ 5 ของโลก โดยมีมูลค่าการส่งออกรวมสูงกว่า 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2567
จังหวัดหวิงห์ลองมีพื้นที่ปลูกมะพร้าวเกือบ 117,300 เฮกตาร์ คิดเป็นเกือบ 60% ของพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง โดยมีผลผลิต 58% ปัจจุบัน มาตรฐาน ESG..(สิ่งแวดล้อม สังคม และ
ธรรมาภิบาล) และแนวโน้มตลาดในอุตสาหกรรมมะพร้าวกำลังก่อให้เกิดความท้าทายมากมาย แต่จะนำมาซึ่งประโยชน์มากมาย
“ESG ไม่เพียงแต่เป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังกลายมาเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับผลิตภัณฑ์มะพร้าวในการเข้าถึงตลาดส่งออกที่มีความต้องการสูง เช่น สหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี เป็นต้น” นอกจากนี้ ยังช่วยให้ธุรกิจต่างๆ รักษาคำสั่งซื้อให้มีเสถียรภาพ หลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะสูญเสียส่วนแบ่งทางการตลาดในห่วงโซ่อุปทานโลก ขณะเดียวกันก็ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ ระดมทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เข้าถึงการสนับสนุนทางเทคนิค และพัฒนาศักยภาพด้านนวัตกรรม” คุณดึ๊ก กล่าวนอกจากนี้ การนำหลัก ESG มาใช้ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุ วัดผล และบริหารจัดการความเสี่ยงต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานการเปลี่ยนแปลงนโยบายการนำเข้า-ส่งออก หรือการระงับข้อพิพาทอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมมะพร้าวที่จะพัฒนาอย่างยั่งยืนในทิศทางที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพในระยะยาว
ที่มา : https://www.Vietnam.vn/th (https://www.vietnam.vn/th/chuyen-doi-xanh-gia-nhap-chuoi-cung-ung-toan-cau)