18 พฤษภาคม 2568 รายงานล่าสุดของ UN ชี้โลกต้องนับรวม ‘ชนพื้นเมือง’ ในการแก้ปัญหา Climate Change เน้นให้อำนาจตัดสินใจและจัดการงบประมาณด้วยตนเอง

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา องค์การสหประชาชาติได้เผยแพร่รายงาน ‘The State of the World’s Indigenous Peoples’ ว่าด้วยความสำคัญและความท้าทายของชนพื้นเมืองต่อความหลากหลายทางชีวภาพและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยรวบรวมข้อมูลจากหลากหลายภาคส่วน ได้แก่ ผู้นำชนพื้นเมือง นักวิจัย และองค์การอนามัยโลก

สาระสำคัญจากรายงานข้างต้น เช่น 

  • ชนพื้นเมืองที่มีอยู่ราว 6% ของประชากรโลก มีส่วนในการปกป้องคุ้มครองความหลากทางชีวภาพของโลกกว่า 80% แต่กลับได้รับความช่วยเหลือด้านการตั้งรับปรับตัวและแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศน้อยกว่า 1%
  • ท่ามกลางความทะเยอทะยานของโลกในการเปลี่ยนผ่านสู่การใช้พลังงานหมุนเวียน แต่ชนพื้นเมืองหลายกลุ่มกลับไม่มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทาง และต้องแบกรับผลกระทบหรือเสียประโยชน์จากการเปลี่ยนผ่านที่ถูกกำหนดขึ้นอีกด้วย
  • การแก้ปัญหาหรือรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ขาดการมีส่วนร่วมของชนพื้นเมืองจะส่งผลให้ความพยายามดังกล่าววนเวียนอยู่วงจรเดิมที่เป็นสาเหตุสำคัญของวิกฤติสิ่งแวดล้อม
  • เรียกร้องให้เห็นความสำคัญของความรู้/ภูมิปัญญาของชนพื้นเมือง ในฐานะความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคนิคที่มีคุณค่ามากกว่าการมองเป็นเพียงเรื่องเล่าโบราณหรือตำนานพื้นบ้าน
  • การเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของชนพื้นเมืองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต้องเปลี่ยนแปลงในระดับฐานราก ครอบคลุมถึงกลไกทางการเงินที่ให้ชนพื้นเมืองเป็นผู้บริหารจัดการและจัดสรรงบประมาณด้วยตัวเอง
  • ควรยอมรับระบบการปกครองดูแลตนเองของชนพื้นเมืองอย่างเป็นทางการ และการรับรองสิทธิในการควบคุมข้อมูลของตนเอง โดยให้ชุมชนมีอำนาจตัดสินใจว่าความรู้เกี่ยวกับที่ดินและวิถีชีวิตของพวกเขาจะถูกรวบรวมและนำไปใช้อย่างไร

           Hindou Oumarou Ibrahim ประธานเวทีชนพื้นเมืองแห่งสหประชาชาติ (UN Permanent Forum on Indigenous Issues) กล่าวว่า “แม้เราจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตสภาพอากาศอย่างหนัก แต่เราไม่ใช่เหยื่อ เราคือผู้พิทักษ์ธรรมชาติที่ทุ่มเทรักษาสมดุลของโลกเพื่อลูกหลานในอนาคต”

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ เราจะถือว่าคุณรับได้กับเรื่องนี้ แต่คุณสามารถเลือกไม่รับได้หากต้องการ ยอมรับ อ่านเพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy