17 กุมภาพันธ์ 2566 เตรียมรับมือ วิกฤติ “ทรายหมดโลก” หายนะใหม่ของมนุษย์?!

ที่มา : https://www.bangkokbiznews.com/world/1052609
โลกมีทะเลทรายหลายแห่ง และทรายก็มีมหาศาล แต่ทำไม UN ถึงกล่าวว่า โลกกำลังเผชิญทรายขาดแคลน และการขาดแคลนทรายเช่นนี้จะนำมาสู่หายนะมนุษย์ด้านใดบ้าง
ปีที่แล้ว หน่วยงานสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNEP ได้เตือนว่า “โลกกำลังเข้าสู่วิกฤตการณ์ทรายหมดโลก (Sand Crisis)” จากการที่มนุษย์ใช้ทรายสูงถึง 5 หมื่นล้านตันต่อปีหรือประมาณ 17 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา อันเกิดจากการขยายตัวของเมือง และประชากรที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ การขาดแคลนทรายนี้กำลังนำมาสู่หายนะของมนุษยชาติได้
ทำไมโลกขาดแคลนทรายถึงเป็นหายนะของมนุษย์
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทรายเป็นวัตถุดิบสำคัญในโลก ด้วยปริมาณที่มากเป็นอันดับ 2 รองจากน้ำ อีกทั้งไม่เหลวเหมือนน้ำ ไม่แข็งเหมือนก้อนหิน แต่บีบอัดได้ จึงเป็นวัตถุดิบหลักของคอนกรีต และซีเมนต์
นอกจากนี้ นครนิวยอร์ก (สหรัฐ) นครเซี่ยงไฮ้ (จีน) และกรุงเทพฯ ก็ล้วนก่อร่างมาจากทรายปริมาณมหาศาล
ก่อนหน้านี้ การผลิตกระจก ขวดแก้วไวน์ ขวดแก้วบรรจุวัคซีน ประสบภาวะขาดแคลนอยู่ช่วงหนึ่ง เพราะทรายไม่เพียงพอ หรือแม้แต่หน้าจอโน้ตบุ๊ก หน้าจอสมาร์ทโฟน ก็ล้วนทำมาจากทรายทั้งสิ้น
ขณะเดียวกัน การทำถนนก็ต้องใช้ยางมะตอยคลุกเคล้ากับหินและทรายให้กลายเป็น แอสฟัลต์คอนกรีต (Asphalt Concrete) เทผิวหน้าถนน
เครื่องสำอาง ก็มีการใช้ทรายซิลิกาเป็นสารเพิ่มความหนืดและความคงตัวในเครื่องสำอาง ยาสีฟัน ลิปสติก และเจลอาบน้ำ
ส่วนที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ทั่วโลก คือ ชิป หรือส่วนประมวลผลของมือถือ รถ EV เครื่องซักผ้า คอมพิวเตอร์ ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ ฯลฯ ที่ล้วนขาดชิปไม่ได้ และชิปก็ผลิตจากวัตถุดิบหลักอย่างทราย จึงเป็นกลายเป็นประเด็นร้อนเมื่อจีนสั่งระงับส่งออกทรายไปไต้หวันจากกรณีการเยือนไต้หวันของสหรัฐ กระทบการขาดแคลนชิป
ทรายลดลง กระทบระบบนิเวศอย่างไร
ในเม็ดทราย มีสารอาหารสำคัญต่อการเติบโตของปลาลูกอ่อน ถูกพัดพาไปกับทรายที่ถูกขุด ยิ่งไปกว่านั้น ทรายยังสำคัญต่อการรักษาสมดุลของน้ำด้วย หากถูกขุดออกไปมากเกินไป พื้นที่รองรับน้ำเสียสมดุลก็จะส่งผลให้น้ำท่วมถี่ขึ้น และรุนแรงขึ้นได้ ยกตัวอย่างเช่น กรณีการขุดทรายบริเวณประเทศศรีลังกา ทำให้กระแสน้ำเปลี่ยน น้ำทะเลเข้าหาฝั่งมากขึ้น และพาจระเข้น้ำเค็มเข้ามาเยี่ยมเยือนใกล้ถิ่นอาศัยของมนุษย์ด้วย