17 สิงหาคม 2564 ยอดตายแผ่นดินไหวในเฮติพุ่ง 1,400 ศพ ชาวบ้านผวาหนักพายุจ่อถล่มซ้ำ

ที่มา:
https://mgronline.com/around/detail/9640000080739
มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดน้ำท่วมฉับพลันและโคลนถล่มตามแนวชายฝั่งแหลมทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศเฮติ ซึ่งเพิ่งเผชิญภัยพิบัติร้ายแรงแผ่นดินไหวระดับ 7.2 เขย่าอาคารบ้านเรือนหลายพันหลังพังถล่มเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ (14 ส.ค. 64) และโรงพยาบาลต่างแน่นขนัดไปด้วยผู้ได้รับบาดเจ็บจากแผ่นดินไหวอยู่ก่อนแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับพายุโซนร้อนเกรซได้อย่างไร หน่วยงานป้องกันพลเรือนของเฮติปรับเพิ่มตัวเลขผู้เสียชีวิตจนถึงวันจันทร์ (16 ส.ค. 64) เป็น 1,419 คน และได้รับบาดเจ็บ 6,900 ราย ในเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงที่สั่นสะเทือนห่างจากกรุงปอร์โตแปรงซ์ไปทางตะวันตกราว 160 กม. และแผ่นดินไหวคราวนี้ยังทำลายอาคารบ้านเรือนไปมากกว่า 37,000 หลัง
จากข้อมูลของศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐอเมริการะบุว่า ในประเทศเฮติและสาธารณรัฐโดมินิกัน ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะฮิสปันโยลา คาดหมายว่า พายุเกรซจะก่อให้เกิดฝนตกราว 5-10 นิ้ว และสููงสุดไม่เกิน 15 นิ้ว ทั่วพื้นที่ทางใต้ไปจนถึงวันอังคาร (17 ส.ค. 64) “ฝนตกหนักอาจทำให้น้ำท่วมฉับพลันในตัวเมือง และเป็นไปได้ที่จะเกิดดินถล่ม” พวกชาวบ้านต้องเผชิญกับภาวะหนีเสือปะจระเข้ว่า จะเลือกปักหลักอยู่นอกบ้านท่ามกลางอาฟเตอร์ช็อกที่ยังสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง หรือกลับเข้าสู่ที่พักอาศัยซึ่งอยู่ในสภาพเปราะบาง เพื่อหลบหนีภัยฝนตกหนักจากอิทธิพลของพายุเกรซที่เริ่มเล่นงานเฮติแล้ว โรงพยาบาลในเมืองพอร์ต ซาลูท ตัดสินใจนำตัวคนไข้ที่รักษาตัวอยู่ในลานกลางแจ้งหลังเกิดแผ่นดินไหว กลับเข้าสู่อาคารอีกครั้ง เพื่อป้องกันผู้ป่วยเหล่านั้นจากพายุ แม้ยังคงมีความเสี่ยงต่างๆนานา
ภัยพิบัติครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ประเทศเฮติอยู่ระหว่างการฟื้นตัวจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงในปี ค.ศ. 2010 ที่ทำลายล้างกรุงปอร์โตแปรงซ์ คร่าชีวิตชาวบ้านหลายแสนคน และยังไม่หายช็อกจากเหตุลอบสังหารประธานาธิบดีเมื่อเดือนที่แล้ว ความช่วยเหลือบางส่วนจากต่างแดนเดินทางมาถึงแล้ว ในนั้นรวมถึงทีมค้นหาเชี่ยวชาญพิเศษจากประเทศสหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับอาหาร ยา และน้ำกว่า 15.4 ตันจากประเทศเม็กซิโก แผ่นดินไหวระดับ 7.0 ในเดือน ม.ค. 2010 ทำพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงปอร์โตแปรงซ์และเมืองที่อยู่ใกล้เคียงพังพินาศ และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200,000 คน ประชาชนชาวเฮติมากกว่า 1.5 ล้านคนต้องกลายเป็นคนไร้ที่พักอาศัยในภัยพิบัติครั้งนั้น ซึ่งทำลายระบบสาธารณสุขของเฮติไปราวร้อยละ 60 ทำให้เจ้าหน้าที่และประชาคมมนุษยธรรมระหว่างประเทศเผชิญกับความท้าทายใหญ่หลวง ส่วนแผ่นดินไหวรุนแรงล่าสุดเกิดขึ้นในขณะที่ประเทศเฮติอยู่ในภาวะบอบช้ำอยู่ก่อนแล้ว จากการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่โควิด-19 ความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจที่ถูกซ้ำเติมจากความรุนแรงระหว่างแก๊ง และจากวิกฤตทางการเมือง หลังเกิดเหตุลอบสังหารประธานาธิบดีโจเวเนล มอยส์ เมื่อวันที่ 7 ก.ค. แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนี้สามารถสัมผัสได้ไกลถึงประเทศจาไมกา และคิวบา อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานความเสียหายร้ายแรงในทั้ง 2 ประเทศ