16 กันยายน 2568 โดรน AI บินฝ่าควันไฟป่า ช่วยนักวิจัยวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม

         นักวิจัยพัฒนาโดรนบิน AI สำรวจไฟป่า บินเก็บข้อมูลในกลุ่มควันไฟได้ละเอียดและปลอดภัยกว่าเดิม เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ทิศทางของกลุ่มควันให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมินนิโซตา ทวินซิตีส์ (University of Minnesota, Twin Cities) พัฒนาโดรนบินขับเคลื่อนด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อบินฝ่าควันไฟป่าและเก็บข้อมูลได้อย่างปลอดภัย

โดรนช่วยสร้างข้อมูลสามมิติของการเคลื่อนตัวของควันและมลพิษในอากาศ ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะชุมชนที่อาศัยอยู่ใกล้พื้นที่เสี่ยงไฟป่า อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการปฏิบัติงานของผู้วิจัยในพื้นที่อันตรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทคโนโลยีนี้ช่วยแก้ปัญหาไฟป่าที่ทวีความรุนแรงในหลายภูมิภาค โดยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะทำหน้าที่ควบคุมและนำทางโดรนอัตโนมัติ สามารถปรับเปลี่ยนเส้นทางการบินตามทิศทางลม ระดับความหนาแน่นของควัน และอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล้วนเป็นสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูงต่อมนุษย์ การนำระบบ AI เข้ามาช่วยจะช่วยให้การเก็บข้อมูลมีความต่อเนื่องและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และลดข้อจำกัดจากการส่งบุคลากรหรืออุปกรณ์ภาคพื้นดินเข้าไปปฏิบัติงานโดยตรง

โดรนช่วยให้เห็นรายละเอียดของการกระจายตัวของควันไฟและอนุภาคมลพิษในอากาศได้อย่างชัดเจน ความสามารถนี้ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถวิเคราะห์ระดับความสูงของควัน ทิศทางการเคลื่อนที่ ตลอดจนขอบเขตของการแพร่กระจายได้อย่างแม่นยำ ข้อมูลที่ได้จะนำมาใช้ในการประเมินผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ การวัดแบบสามมิติยังช่วยพัฒนาแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ที่มีความแม่นยำสูงขึ้น เพื่อใช้ในการคาดการณ์ทิศทางการเคลื่อนตัวของมลพิษในสถานการณ์จริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ข้อมูลที่ได้จากโดรน AI ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การศึกษาการเผาไหม้ในป่าเท่านั้น แต่ยังสามารถนำไปใช้วิเคราะห์ผลกระทบต่อคุณภาพอากาศในเมืองและพื้นที่เกษตรกรรมที่อยู่ใกล้เคียง การมีข้อมูลที่ละเอียดในเชิงเวลาและพื้นที่ ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถประเมินความเสี่ยงต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง ข้อมูลเหล่านี้ยังสามารถใช้สนับสนุนนโยบายด้านสาธารณสุขและการจัดการไฟป่า เพื่อลดผลกระทบต่อชุมชนในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในอนาคต เทคโนโลยีนี้อาจถูกนำไปประยุกต์ใช้ร่วมกับระบบตรวจวัดดาวเทียมและเครื่องมือเซนเซอร์ภาคพื้น เพื่อสร้างเครือข่ายข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีความละเอียดสูง ช่วยให้หน่วยงานรัฐและนักวิทยาศาสตร์สามารถติดตามการเกิดไฟป่าแบบเรียลไทม์ รวมถึงคาดการณ์ทิศทางการแพร่กระจายของควันได้ล่วงหน้า ซึ่งจะช่วยให้การแจ้งเตือนภัยมีความรวดเร็วและมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น

การนำเทคโนโลยี AI มาช่วยควบคุมโดรนเพื่อสำรวจควันไฟป่าถือเป็นความก้าวหน้าที่
ช่วยลดความเสี่ยงต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่อันตราย พร้อมทั้งสร้างข้อมูลสามมิติที่มีความละเอียดสูง ซึ่งมีประโยชน์ต่อการวิเคราะห์การกระจายตัวของมลพิษในอากาศ นักวิจัยสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวในการประเมินผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนได้อย่างแม่นยำ และยังมีศักยภาพในการสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบายสำหรับการจัดการไฟป่า เพื่อให้การป้องกันและบรรเทาผลกระทบ
มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ที่มา : Thai PBS (https://www.thaipbs.or.th/now/content/3134)

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ เราจะถือว่าคุณรับได้กับเรื่องนี้ แต่คุณสามารถเลือกไม่รับได้หากต้องการ ยอมรับ อ่านเพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy