15 มกราคม 2567 ไอเดียเจ๋ง เปลี่ยนขยะจากสวนทุเรียนเป็นน้ำมันดีเซลและเบนซิน ใช้เติมยานพาหนะ

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (https://www.thairath.co.th/agriculture/agricultural-technology/2755125)

อาจารย์และนักศึกษา หลักสูตรนวัตกรรมเทคโนโลยีพลังงานทดแทน มรภ.สุราษฎร์ธานี ทดลองเปลี่ยนเชือกโยงทุเรียน ที่เป็นเชือกฟางพลาสติกอันเป็นขยะเหลือใช้จากสวนทุเรียน ให้เป็นน้ำมันดีเซลและเบนซินใช้เติมรถได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเศษเชือกฟางโยงทุเรียนกับลำต้นตามสวน ถูกนำเข้าใส่ในเตาเผา ก่อนควบแน่นกลายเป็นน้ำมัน เพื่อกำจัดขยะจำนวนมากที่เกิดขึ้นจากการทำสวนทุเรียน ที่ต้องเผาทิ้งไปโดยไร้ประโยชน์ ให้กลายมาเป็นน้ำมันดีเซล ใช้ในเครื่องจักรรอบต่ำ และน้ำมันเบนซินในรถยนต์ จักรยานยนต์ และเครื่องตัดหญ้าของชาวสวน ทำให้ขยะจากสวนทุเรียนไม่ถูกเผาทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ โดยทุเรียนอายุ 10 ปี ต้องใช้เชือกฟางเฉลี่ย 15 กิโลกรัม ต่อทุเรียน 1 ไร่ ซึ่งสุราษฎร์ฯ มีการปลูกทุเรียนสูงถึงกว่าแสนไร่ ให้ผลผลิตแล้วกว่าเจ็ดหมื่นไร่ ทำให้เกิดขยะจากเชือกโยงทุเรียนกว่า 1 ล้านกิโลกรัมต่อปี

ผศ.ชัยนุสนธ์ เกษตรพงศ์ศาล และอาจารย์วัชระกร ศรีคำ อาจารย์หลักสูตรนวัตกรรมเทคโนโลยีพลังงานทดแทน คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เชือกโยงทุเรียนเป็นวัสดุสิ้นเปลือง ที่ต้องใช้และทิ้งทุกปี ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะกำจัดด้วยการเผาทิ้งหายไปในอากาศ จึงลองเอามาเผาด้วยเครื่องเผาและกลั่นน้ำมันอย่างง่ายที่ผลิตขึ้นเอง พบว่าได้น้ำมันประมาณ 0.9 ลิตร ต่อเชือกฟาง 1 กิโลกรัม สามารถกำจัดขยะออกจากสังคมและได้น้ำมันมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งตอนนี้สามารถนำไปใช้กับเครื่องยนต์รอบต่ำ เช่น เครื่องสูบน้ำ เครื่องสูบต่างๆ เครื่องตัดหญ้า และนำน้ำมันที่ผ่านการกรอง ทดลองใช้กับรถยนต์และจักรยานยนต์ของตัวเอง ด้านนายอนุภัทร ขำเกิด นักศึกษาชั้นปี 2 และนายชัยวัฒน์ เมืองฉิม นักศึกษาชั้นปี 1 หลักสูตรนวัตกรรมเทคโนโลยีพลังงานทดแทน คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เครื่องตัวนี้เป็นเครื่องเผาขยะอย่างง่าย ที่คิดค้นและสร้างร่วมกับอาจารย์ เมื่อเผาเชือกฟาง จะกลายเป็นไอน้ำมัน เข้าสู่กระบวนการควบแน่นแยกเป็นน้ำมันดีเซลและเบนซิน ก่อนนำเข้าสู่กระบวนการกรองจนได้น้ำมันที่สะอาด เพียงพอต่อการใช้กับเครื่องยนต์ชนิดต่างๆ ซึ่งจากการทำงานก็ทำให้ได้ประสบการณ์ในการเรียนเป็นอย่างมาก และสามารถนำไปต่อยอดใช้ในการประกอบอาชีพในอนาคตได้