15 กุมภาพันธ์ 2568 พกฉ. ลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ (MOU) ผนึกกำลัง อพวช. ร่วมมือพัฒนาแหล่งเรียนรู้ด้านนวัตกรรมเกษตร วิทยาศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม
ที่มา: https://www.posttoday.com/smart-city/719219
สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (องค์การมหาชน) หรือ พกฉ. โดย พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการ พกฉ. ได้จัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือ (MOU) ร่วมกับองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) โดย ผศ.ดร. รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เพื่อร่วมกันส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านนวัตกรรมเกษตร วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม สิ่งแวดล้อม และการให้บริการประชาชน ณ ห้องประชุมศาสตร์พระราชา ชั้น 2 สำนักงานพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
พันจ่าเอก ประเสริฐ มาลัย ผู้อำนวยการ พกฉ. เผยว่า พกฉ. มีภารกิจในการเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพด้านการเกษตรของสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย รวมทั้งส่งเสริม สนับสนุน เครือข่ายและภาคีความร่วมมือพันธมิตรในการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการเกษตร จึงเห็นความสำคัญของการสร้างความร่วมมือกับองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ อพวช. หรือ NSM ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลักดันโครงการและกิจกรรมต่าง ๆ พร้อมทั้งส่งเสริมการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรและสิ่งแวดล้อมที่สามารถส่งต่อให้สังคมไทย รวมถึงการพัฒนาและผลิตบุคลากรด้านการศึกษาวิจัย และถ่ายทอดองค์ความรู้ที่มีคุณภาพพร้อมนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาสังคมและประเทศชาติ เพื่อร่วมมือขับเคลื่อนประเทศด้วยนวัตกรรมเกษตร วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และสิ่งแวดล้อม นำไปสู่การพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนในอนาคต
ผศ.ดร. รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการ อพวช. กล่าวว่า อพวช. มีภารกิจในการส่งเสริมสังคมไทยให้เห็นถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่อการพัฒนาประเทศ พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนและประชาชนได้สนุกไปกับการค้นพบความมหัศจรรย์ของวิทยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม การลงนามในบันทึกความเข้าใจ ความร่วมมือระหว่าง อพวช. และ พกฉ. ในครั้งนี้ เป็นการประสานความร่วมมือและทรัพยากรของทั้งสององค์กรเพื่อพัฒนาบุคลากร กิจกรรม และแหล่งเรียนรู้ด้านการศึกษาวิจัย และการสื่อสารวิทยาศาสตร์ โดยจะมีการจัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมที่น่าสนใจเพื่อให้เยาวชนและประชาชนได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของธรรมชาติต่อไป