13 กันยายน 2564 พลังงานแสงอาทิตย์

รัฐบาลวอชิงตันต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่ และทุ่มเงินลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศให้ทันสมัย รายงานของสำนักงานประสิทธิภาพพลังงานและพลังงานหมุนเวียน (Office of Energy Efficiency and Renewable Energy) ในสังกัดกระทรวงพลังงานสหรัฐอเมริการะบุว่า จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณพลังงานแสงอาทิตย์รายปีเป็น 4 เท่า และเพิ่มอย่างต่อเนื่องทุกปี ในการปรับเปลี่ยนไปสู่การใช้พลังงานแสงแดดเป็นส่วนใหญ่ในโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศ เพื่อแก้ไขภัยคุกคามที่เผชิญอยู่ ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก หรือที่เรียกว่า ภาวะโลกร้อนขึ้น เบคกา โจนส์-อัลเบอร์ตัส ผู้อำนวยการสำนักงานเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ กระทรวงพลังงานสหรัฐอเมริกากล่าวว่า รายงานซึ่งเผยแพร่ต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา ไม่ตั้งใจให้เป็นแถลงการณ์นโยบาย หรือเป้าหมายของรัฐบาล แต่มันถูกออกแบบเพื่อใช้เป็นแนวทาง และสร้างแรงบันดาลใจสำหรับนวัตกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ ในทศวรรษหน้า ด้วยการตอบคำถามอย่างเช่น ต้องรีบเร่งแค่ไหนในการเพิ่มปริมาณพลังงานแสงอาทิตย์สู่ระดับเป้าหมาย และต้องเพิ่มสู่ระดับเท่าใด เป็นต้น เจนนิเฟอร์ แกรนโฮล์ม รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า รายงานผลการศึกษาอธิบายให้เห็นข้อเท็จจริงว่า แสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานสะอาดราคาถูกที่สุด และเติบโตรวดเร็วที่สุดของประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถผลิตกระแสไฟฟ้ามากเพียงพอให้พลังงานแก่บ้านเรือนทุกหลังในประเทศ ภายในปี พ.ศ. 2578 และอาจจะจ้างงานได้ถึง 1.5 ล้านคนเมื่อถึงจุดนั้น รายงานถูกนำออกเผยแพร่ ในขณะที่ประธานาธิบดีโจไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกาประกาศให้ปัญหาภาวะโลกร้อนเป็นวิกฤติของทุกคน (everybody crisis) ระหว่างเดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยจากเฮอริเคนไอดา ในรัฐนิวยอร์ก และรัฐนิวเจอร์ซี โดยไบเดนกล่าวเตือนว่า ถึงเวลาแล้วที่อเมริกาจะต้องจริงจัง เกี่ยวกับอันตรายระดับ “รหัสสีแดง” จากผลกระทบของภาวะโลกร้อน หากทุกฝ่ายที่เกียวข้องไม่ร่วมมือกัน แก้ไขรับมืออย่างถูกวิธีและทันเวลา ประเทศสหรัฐอเมริกาจะเผชิญกับความสูญเสียมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน และปัญหานี้ยังไม่มีใครสามารถแก้ไขให้กลับคืนสู่สภาพเดิม ทำได้ดีที่สุดเพียงแค่ป้องกันไม่ให้เลวร้ายลงกว่าเดิม ภัยพิบัติทางธรรมชาติจากพายุเฮอริเคนไอดา เปิดช่องให้ไบเดนผลักดันสภาคองเกรสให้อนุมัติแผนใช้จ่าย 1 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคทั่วประเทศ รวมถึงโครงข่ายไฟฟ้า ระบบน้ำ และน้ำเสีย เพื่อป้องกันผลกระทบจากสภาพอากาศแปรปรวนสุดขั้วได้ดีกว่าเดิม ตอนนี้ร่างกฎหมายรายจ่ายสาธารณูปโภค ผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภาแล้ว ยังเหลือการลงมติของสภาผู้แทนราษฎร ประเทศสหรัฐอเมริกาติดตั้งแผงโซลาร์ผลิตกระแสไฟฟ้ามากเป็นสถิติถึง 15 กิกะวัตต์ ในปี พ.ศ. 2563 และตอนนี้พลังแสงอาทิตย์มีสัดส่วนเพียงแค่ร้อยละ 3 ของกระแสไฟฟ้าทั้งหมดที่ใช้ในประเทศ

รายงานผลการศึกษาอนาคตของพลังงานแสงอาทิตย์ (SolarFutures Study) โดยศูนย์วิจัยพลังงานหมุนเวียนแห่งชาติ กระทรวงพลังงานสหรัฐอเมริกาแสดงให้เห็นว่า ภายในปี พ.ศ. 2578 ประเทศสหรัฐอเมริกาต้องเพิ่มปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์เป็น 1,000 กิกะวัตต์ เพื่อให้โครงข่ายไฟฟ้าของประเทศใช้พลังงานหมุนเวียนมากกว่าจากแหล่งอื่น และเพิ่มอีกเป็น 1,600 กิกะวัตต์ภายในปี พ.ศ. 2593 โดยเป้าหมายสุดท้ายอยู่ที่ 3,000 กิกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้โครงข่ายไฟฟ้าของประเทศสหรัฐอเมริกาปลอดคาร์บอนโดยสิ้นเชิง การที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว สหรัฐต้องติดตั้งแผงโซลาร์ให้ได้โดยเฉลี่ย 30 กิกะวัตต์ต่อปี จากปีนี้ไปจนถึงปี พ.ศ. 2568 และ 60 กิกะวัตต์ต่อปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2568 จนถึงปี พ.ศ. 2573

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ เราจะถือว่าคุณรับได้กับเรื่องนี้ แต่คุณสามารถเลือกไม่รับได้หากต้องการ ยอมรับ อ่านเพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy
slot online situs slot gacor hari ini daftar istanaslot https://buletin303.com/ https://134.209.107.98:777/ https://188.166.233.138/

https://gangster4d.netlify.app/

gangster4d slot

gangster4d

Skip to content