12 กุมภาพันธ์ 2563 สัตวแพทย์รุดตรวจสอบซากกวาง 2 ตัวเสียชีวิต

ที่มา: https://www.komchadluek.net/news/local/416272?utm_source=category&utm_medium=internal_referral&utm_campaign=local

นายนักรบ ณ ถลาง นายอำเภอเมืองชุมพร รับแจ้งจากนายภิทูน พลชนา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต. บางลึก อ.เมืองชุมพร จ. ชุมพร ว่า พบซากกวาง 2 ตัว ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ บนเกาะกลางน้ำ ภายในโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ ต. บางลึก อ. เมืองชุมพร จ. ชุมพร จึงประสานไปยังนายธงชัย หนังสือ ปศุสัตว์จังหวัดชุมพร ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปพิสูจน์ซากกวาง เพื่อหาสาเหตุการตายด้วย

หลังจากนั้น นายสัตวแพทย์ (น.สพ.) พิชัย โพธิ์กระสังข์ สัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาสุขภาพสัตว์ สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดชุมพร นำเจ้าหน้าที่นำอุปกรณ์ในการตรวจสอบ และสารเคมีกำจัดเชื้อ เดินทางไปสมทบกับนายภิทูน และนายสมบูรณ์ หนูนวล อดีตหัวหน้าศูนย์ควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลงที่ 11.4 ชุมพร ผู้นำชุมชน และสื่อมวลชน ล่องแพไปยังเกาะกลางน้ำในโครงการฯ เพื่อร่วมกันตรวจสอบ

เมื่อขึ้นไปบนเกาะ พบซากกวางพันธุ์รูซ่า เพศผู้ จำนวน 2 ตัว อายุประมาณ 5 – 6 ปี สูงประมาณ 1.20 เมตร ยาวประมาณ 1.80 เมตร น้ำหนักตัวละประมาณ 250 – 300 กิโลกรัม นอนทับกันตายอยู่ในป่าบนเกาะ ห่างจากตลิ่งประมาณ 200 เมตร ส่งกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรงคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ จึงให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรค และดับกลิ่น ก่อนเข้าไปตรวจสอบซาก พบร่องรอยการต่อสู้ระหว่างกวางด้วยกัน คือ มีเขากวางปลายแหลมแทงบริเวณกลางอกทะลุออกมากลางหลัง มีคราบเลือดแห้งเกรอะกรัง ตามลำตัวเริ่มเปื่อยเน่า และมีหนอนขึ้นแล้ว สันนิษฐานเบื้องต้นว่า กวางทั้งสองตัวเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ จึงให้เจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกิ่งไม้และกวาดหญ้ารอบซากกวาง เพื่อเตรียมหาทางกำจัดซากไม่ให้เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคต่อไป

น.สพ.พิชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบขอยืนยันว่า กวางทั้งสองตัวไม่ได้เสียชีวิตจากถูกยิงอย่างแน่นอน แต่สาเหตุเกิดจากการต่อสู้กันระหว่างกวางเพศผู้เพื่อแย่งชิงการเป็นจ่าฝูง ซึ่งเป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติของกวางในฤดูผสมพันธุ์ที่แย่งชิงกวางตัวเมียกัน และในโครงการหนองใหญ่ฯ มีกวางพันธุ์รูซ่าอยู่ประมาณ 100 กว่าตัว ประมาณ 5 – 6 ฝูง แต่ละฝูงจะมีกวางตัวผู้ที่แข็งแรง เป็นจ่าฝูง การกำจัดซากกวางมีหลายวิธี เช่น การขุดหลุมฝังลึก ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ และดับกลิ่น โรยปูนขาว แต่มีปัญหาคือ ไม่สามารถนำรถแบกโฮขึ้นไปบนเกาะ หรือใช้กำลังคนขุดหลุมได้ จำเป็นต้องใช้วิธีเผาทำลายโดยใช้กิ่งไม้ หรือยางรถยนต์ โดยต้องควบคุมไม่ให้ไฟลุกลามบนเกาะ เพราะโครงการหนองใหญ่ฯ ปัจจุบันกำลังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของ จ. ชุมพร

นายสมบูรณ์ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการการเผาทำลายกำจัดซากกวาง เพราะคงไม่สามารถนำรถแบกโฮขึ้นมาบนเกาะเพื่อขุดหลุมฝังได้ ซึ่งต้องรีบดำเนินการ โดยชาวบ้านต้องร่วมมือกัน ส่วนนายภิทูนก็กล่าวว่า จะรีบนำชาวบ้านขึ้นมาช่วยกันเผาซากกวางทั้งสองตัวโดยเร็ว ดินบนเกาะเป็นดินเหนียวที่ไม่สามารถใช้กำลังคนขุดให้ลึก 3 – 5 เมตรได้  แต่อยากให้พวกโลกสวยที่ชอบสร้างประเด็นดราม่าเข้าใจด้วย ที่ผ่านมามีกวางเสียชีวิตจากการต่อสู้กัน 2 ตัวแล้ว ส่วนที่พบวันนี้ถือเป็นตัวที่ 3 และ 4 และขอยืนยันว่า ชาวบ้านไม่เคยยิงกวางในโครงการหนองใหญ่ฯ แม้แต่ตัวเดียว เหมือนที่เคยมีการกล่าวหากัน เพราะทุกคนรัก หวงแหนทรัพยากรทางธรรมชาติในพื้นที่ และช่วยกันปกป้องดูแลมาโดยตลอด 

เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้เพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของคุณ เราจะถือว่าคุณรับได้กับเรื่องนี้ แต่คุณสามารถเลือกไม่รับได้หากต้องการ ยอมรับ อ่านเพิ่มเติม

Privacy & Cookies Policy