11 เมษายน 2563 ฝุ่นเหนือลดอีก!อยู่ที่ 3 โลก/ชาวบ้านถามลุงป้อมขู่ปิดป่า ไฟไหม้ใครจะดับ!

ที่มา : https://siamrath.co.th/n/146355
กรมควบคุมมลพิษ รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศ พื้นที่ภาคเหนือ วันที่ 11 เม.ย.63 เวลา 06.00 น. พบว่า เช้านี้คุณภาพอากาศดีขึ้นกว่าเมื่อวาน โดยอยู่ในระดับคุณภาพดีถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ตรวจพบค่าฝุ่นระหว่าง 27 – 135 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ยังคงเกินมาตรฐาน 10 พื้นที่ พบอยู่ในระดับมีผลกระทบเป็นอันตรายต่อสุขภาพ (โซนสีแดง) 2 พื้นที่ ยังคงสูงสุดที่ ต.เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ 135 ไมโครกรัมฯ ตามด้วย ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย 94 ไมโครกรัมฯ และอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (โซนสีส้ม) จำนวน 8 พื้นที่คือ บริเวณต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่, ต.เวียง อ.เมือง จ.เชียงราย, ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน, ต.ห้วยโก๋น อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน, ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก, ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่, ประตูท่าแพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่
ขณะที่ www.airvisual.com ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศและจัดอันดับเมืองมลพิษ โดยรายงานแบบเรียลไทม์ วันที่ 11 เม.ย.63 เวลา 08.30 น. พบเช้านี้เมืองเชียงใหม่ อันดับลดลงในรอบเดือนกว่า อยู่ในลำดับที่ 3 ของโลก ค่าฝุ่นอยู่ที่ 172 US AQI
อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย Doi Suthep-Pui National Park ระบุ สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จ.เชียงใหม่ ณ ปัจจุบัน ได้คลี่คลายลงบ้างแล้ว แต่ เจ้าหน้าที่ยังลาดตระเวนเฝ้าระวังไฟ ตลอด 24 ชม.
GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) รายงานแผนที่จุดความร้อนรายวัน ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน 9 จังหวัด วันที่ 10 เม.ย.63 มีจุดความร้อน 484 จุด ข้อมูลดาวเทียมระบบ VIIRS รายละเอียด 375 เมตร พบมีจุดความร้อนในป่าอนุรักษ์ 186 จุด ป่าสงวนแห่งชาติ 286 จุด โดยในที่ป่าอนุรักษ์ พบค่าจุดความร้อนสูงสุดที่จ.ตาก 66 จุด และป่าสงวน ค่าจุดความร้อนสูงสุดที่ จ.เชียงใหม่130 จุด ทั้งยังพบจุดความร้อนกระจายไปในพื้นที่ป่าภาคเหนือทั้ง เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ ลำปาง ลำพูน
มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือ โพสต์ระบุ กว่า 2 เดือนแล้วที่ #ปกาเกอะญอ หรือ #กะเหรี่ยง จากชุมชนบ้านดอยช้างป่าแป๋ (ต่าหลู่เก่อชอ) ต.ป่าพลู อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน ได้ระดมกำลังกันเข้าไปจัดทำแนวกันไฟ ลาดตระเวน และดับไฟป่า ถ้าไม่มีผืนป่า ก็ไม่มีชีวิตของปกาเกอะญอดอยช้างป่าแป๋ วันนี้พวกเขาต้องเผชิญกับสถานการณ์ #ไฟป่า ที่รุนแรงมากขึ้นกว่าทุกปี ยังต่อสู้กับไฟป่าอย่างโดดเดี่ยว รวมทั้งยังต้องต่อสู้กับการระบาดของ #COVID19
ทั้งนี้ในโลกโซเชียล ได้มีการออกแคมเปญรณรงค์แก้ปัญหาไฟป่า ผ่าน www.change.org โดยระบุควันจากไฟใหม้ป่าที่เรื้อรังมานานตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ทำให้ค่า US AQI ในเชียงใหม่สูง จนติดอันดับพื้นที่ที่มีค่า PM2.5 นำทุกชาติทั่วโลกมาหลายเดือน เรียกร้องให้ผู้ว่าฯ เชียงใหม่และเชียงราย เร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน สื่อสารกับประชาชนอย่างตรงไปตรงมา เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว
ขณะที่ในโลกโซเชียลมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ที่บินมาดูสถานการณ์ไฟป่าที่เชียงใหม่ พร้อมระบุจะสั่งปิดป่าในหน้าร้อนหากยังคุมไฟป่าไม่ได้ โดยชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ป่า ชุมชนบ้านแม่ส้าน ระบุ อยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์แทบทั้งหมด ทั้งผู้ชาย/ผู้หญิง ออกไปดับไฟป่าทั้งกลางวันกลางคืน ออกไปไล่ดับไฟป่านอกเขตที่เคยดูแลด้วยซ้ำ เพื่อปกป้องดูแลชีวิตสัตว์ และป่าไม้ “แต่ลุงป้อมขู่ปิดป่า” แล้วถ้าไฟไหม้ป่าใครจะเข้าไปดับ ใครจะรับผิดชอบ แล้วถามอีกคำทุกวันนี้ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่จะประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ แล้วท่านมีความสามารถดูแลป่า ไฟป่า ได้กี่% เท่าที่ชาวบ้านดูแลไหม
รวมทั้งมีผู้แสดงความเห็นว่า ปกติ เมษายนปัญหาฝุ่นก็จะเริ่มคลี่คลาย ปีที่แล้ว นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ มาเชียงใหม่ 2 เม.ย. สั่งให้แก้ปัญหาใน 7 วัน กระเตื้องมานิด อีกไม่นาน ฝนมา … ราชการเฮ จบข่าว , ถึงท่านไม่ทำอะไร ก็จะดีขึ้นแน่นอน เพราะปลายเม.ย.ก็จะดีขึ้น พอ พ.ค. ฝนเริ่มมาฝุ่นก็หมดไป เพราะวนๆ แบบนี้มาเป็นสิบปีแล้ว รบกวนปีหน้ามาช่วงก.พ.แทน
ขณะนายธนาวุฒิ ปัญจพรอุดมลาภ ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือเผย คาดสัปดาห์หน้าสภาพอากาศมีแนวโน้มดีขึ้น และช่วงปลายเดือนจะมีโอกาสฝนเพิ่มมากขึ้น แต่ยังต้องรอ เพราะยังไม่เข้าหน้าฝน